ไขข้อข้องใจปี 2024 ดูดไขมันช่วยลด SIZE ได้จริงไหม? และลดได้มากขนาดไหน?

ดูดไขมัน ลดหุ่น

การดูดไขมันช่วยลด Size ลดหุ่นได้จริงไหม? วันนี้หมอไอซ์ AMARA จะมาให้คำตอบในเรื่องนี้กันครับ เริ่มปี 2024 นี้ หลาย ๆ คนได้สอบถามเข้ามาทางอินบ็อกซ์ และทางไลน์ของคลินิกว่า ดูดไขมันแล้วจะทำให้ไซซ์ลดลงไหม? ดูดแล้วไซซ์จะเล็กลงขนาดไหน? บอกต้องบอกตามตรงว่าจะเล็กแค่ไหน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยขึ้นอยู่กับแต่ละเคสครับ

ถ้าอยากลด size ลงจริง ๆ หรือต้องการให้สัดส่วนลง ก็จะต้องดูดรอบครับ ซึ่งการดูดรอบที่ว่านั้น คือการดูดไขมันรอบแขน, ดูดไขมันรอบต้นขา หรือถ้าคนไข้อยากให้หน้าท้องมีไซซ์เล็กลง ก็ต้องดูดรอบท้องและรอบเอว แบบ 360°

โดยส่วนใหญ่แล้ว ถ้าดูดไขมันโดยรอบ จะสามารถลดได้ 1-2 ไซซ์ครับ คนไข้หมอจะทราบอยู่แล้วนะครับว่าถ้ามาดูดไขมันที่ Amara Liposuction Center เราการันตีไซซ์เล็กลงอย่างน้อย 1 ไซซ์แน่นอนครับ แต่ถ้าเป็นเคสที่ตัวเล็กมาก ๆ (XS-S) ไซซ์อาจจะเท่าเดิม แต่ส่วนเกินจะหายไป ทำให้รูปร่างดูเป๊ะขึ้นครับ ซึ่งหมอก็รับประกันผลงานเช่นกัน

ดูดไขมันลดหุ่นให้ได้ผลต้องร่วมมือกัน!

คนที่จะมีหุ่นเพรียวสวย ดูเรียว และสัดส่วนเข้าที่เร็วนั้น ไม่ได้มาจากปัจจัยเรื่องการดูดไขมันรอบสัดส่วน 360° อย่างเดียวนะครับ แต่คนไข้จะต้องช่วยหมอดูแลตัวเอง และเข้ามาทำ After Care ที่หมอจัดไว้ให้เป็นประจำด้วยครับ

อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันนั้น ไม่ว่าจะดูดออกมามากหรือน้อยแค่ไหน ก็ไม่ได้การันตีว่าผลลัพธ์ที่ได้ จะออกมาดีที่สุดนะครับ เช่น รูปร่างเพรียว หุ่นดี ขาเรียวสวย หรือสัดส่วนเข้าที่เร็ว เป็นต้น เพราะจริง ๆ แล้วจะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยใหญ่ ๆ ตามนี้ครับ

  1. ปัจจัยแรกคือจากแพทย์ 30% ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญ, เครื่องมือที่ใช้ หรือรวมไปถึงเทคนิคการดูดไขมันด้วยครับ
  2. ส่วนปัจจัยที่สองคือการดูแลตัวเองของคนไข้หลังดูดไขมัน 70% เช่น การสวมชุดกระชับหลังดูดไขมัน, การกินยา, การเข้ามานวดกระชับ ทำ After Care หรือการออกกำลังกายเป็นต้น เรียกได้ว่าสัดส่วนจะเข้าที่เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้เป็นหลักครับ
ตัวบวมเกิดจากอะไร

หลังดูดไขมันต้องทำยังไงบ้าง สัดส่วนถึงจะเข้าที่ไว?

สิ่งที่คนไข้ต้องทำหลังดูดไขมันนั้น แบ่งเป็นการเข้ามาทำ After Care หลังดูดไขมันที่คลินิกครึ่งหนึ่ง เช่น การนวดกระชับ Rf หรือการยกกระชับด้วย Thermatight (สำหรับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก) เป็นต้น และการดูแลตัวเองของคนไข้ที่บ้าน

การทำหัตถการที่ Amara Clinic

ก่อนที่จะตัดสินใจดูดไขมันที่ไหนดี สิ่งที่หมอแนะนำให้ดูหรือตรวจเช็คนั้น คือการดูว่าคลินิกดูดไขมันที่สนใจมีบริการ After Care ที่สำคัญรองรับรึเปล่า และรวมกับค่าดูดไขมันไปรึยัง หรือต้องจ่ายเพิ่ม ควรสอบถามให้เรียบร้อยครับ ถ้าไม่มี แปลว่าหลังดูดไขมันคนไข้จะต้องไปหาที่นวดกระชับ เลเซอร์ ทำแผล ฯลฯ เองทั้งหมด ทั้งเสียเงินเพิ่มและไม่สะดวกแน่นอนครับ

การฉายแสง LED ลดอาการบวม อักเสบ

แสง LED (Light Emitting Diode) หรือแสงสีแดง ที่มีความยาวคลื่น 640 นาโนเมตร สามารถช่วยลดอาการอักเสบและการบาดเจ็บได้ดีครับ จึงช่วยทำให้อาการบวมดีขึ้นได้ โดยแสง LED นี้ จะเข้าไปฟื้นฟูซ่อมแซมเซลล์เนื้อเยื่อใต้ผิว ให้กลับเข้ามาสู่กระบวนการทำงานปกติ ร่างกายก็จะกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนให้มากขึ้น ผิวในบริเวณดังกล่าวก็จะบวมน้อยลง และเรียบเนียนยิ่งขึ้น ควรฉายแสง LED ในช่วง 7 วันแรกหลังดูดไขมัน

นวด RF กระชับผิว สลายไขมัน

การนวดกระชับ RF จะเริ่มทำในสัปดาห์ที่ 2 หลังดูดไขมัน และทำต่อเนื่องทุกสัปดาห์จนกว่าคนไข้จะพึงพอใจ ซึ่งการนวดกระชับ RF นี้ เป็นการนวดด้วยพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency) มีข้อดีคือช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วย ทำให้ผิวค่อย ๆ หดตัวลง และยกกระชับขึ้น ในระหว่างที่ทำ RF คนไข้จะรู้สึกผ่อนคลาย สบายตัว และสามารถรับรู้ได้ถึงความกระชับตัวของผิวได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยที่ Amara Clinic หมอเลือกใช้เครื่อง Venus Legacy ในการนวด RF หลังดูดไขมันครับ

Thermatight ยกกระชับ สลายก้อนแข็ง ก้อนไต

การยกกระชับผิวด้วย Thermatight เป็นการใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency) ชนิดพิเศษที่มีระดับความร้อนที่สูงกว่าการนวดกระชับ RF ปกติ ส่งความร้อนลงสู่ชั้นไขมันใต้ผิว

  • ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนทำให้ผิวกระชับหดตัวลง
  • สลายไขมันส่วนเกินในบริเวณดังกล่าว
  • ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้น
  • ทำให้สัดส่วนเข้ารูปเร็วขึ้น และชัดเจนขึ้น
  • ลดปัญหาผิวไม่เรียบ ผิวเปลือกส้ม ผิวขรุขระ

การสลายก้อนแข็งหรือก้อนไตที่อาจเกิดขึ้นได้หลังดูดไขมัน ดังนั้นการทำ Thermatight จะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากคุณไม่ใช่คนที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก การทำ RF อย่างเดียว ก็เพียงพอแล้ว (เว้นแต่ว่าคุณอยากให้รูปร่างเป๊ะ หรือสัดส่วนเข้าที่เร็วมากขึ้นจริง ๆ )

การดูแลตัวเองที่บ้าน

การดูแลตัวเองหลังดูดไขมันที่บ้าน ตัวคนไข้เองจะต้องตั้งใจและพยายามทำให้ได้นะครับ ใครที่ดูแลตัวเองไม่ดี อาจทำให้ผลลัพธ์หลังดูดไขมันไม่ได้เป็นไปตามที่ต้องการก็ได้นะครับ ถ้าอยากรู้ว่าหลังดูดไขมันจะมีอาการอะไรบ้าง อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ : อาการหลังดูดไขมัน

ดื่มน้ำวันละ 1-2 ลิตร

การดูดไขมันอาจทำให้เสียน้ำในร่างกายไป จึงทำให้เรามีอาการเวียนศีรษะ มึนหัว หน้ามืด หรือคลื่นไส้อาเจียนได้ แนะนำให้ดื่มน้ำวันละประมาณ 1-2 ลิตร เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป และเพื่อให้ร่างกายขับยาชาออกมาในรูปแบบของปัสสาวะ จึงทำให้อาการดังกล่าวจะค่อย ๆ หายไปใน 24 ชั่วโมงหลังดูดไขมัน และอาการบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้นด้วย

รับประทานยาตามแพทย์สั่ง

หลังดูดไขมันจะมีเซ็ตยาให้กลับบ้านไป โดยจะประกอบด้วยยาฆ่าเชื้อ, ยาแก้อักเสบ, ยาแก้ปวด และยาลดบวม เพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ ให้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังแนะนำให้คนไข้ทาน Vitamin C และ Vitamin B Complex เพิ่ม เพื่อให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น

การดูแลแผลหลังผ่าตัด

หลังจากดูดไขมันเสร็จแล้ว คนไข้ต้องทำความสะอาดแผลทุกวันจนกว่าแผลจะแห้งและตัดไหมออก (ประมาณ 5-7 วัน) สามารถเข้ามารับบริการที่คลินิกได้ทุกวัน หากไม่สะดวกสามารถทำแผลเองที่บ้านได้ โดยทางคลินิกจะมีเซ็ตอุปกรณ์สำหรับทำแผลให้ไป และต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ เพราะอาจทำให้แผลติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

วิธีทำความสะอาดแผลไม่ยาก เพียงใช้ยาฆ่าเชื้อเช็ดแผลและใช้ผ้าก๊อซปิดทับ หากเป็นคนเหงื่อออกเยอะจนทำให้แผลชื้น หรือแผลเปียกด้วยเหตุสุดวิสัย ให้รีบซับน้ำออกและเปลี่ยนผ้าก๊อซใหม่ทันที (ห้ามใช้พลาสเตอร์แบบกันน้ำ) ดังนั้น ไม่แนะนำให้อาบน้ำจนกว่าแผลจะแห้ง ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดแทน

ประคบเย็น และ ประคบร้อน หลังดูดไขมัน

หลังดูดไขมัน 1-3 วันแรก ให้ใช้เจลเก็บความเย็น ประคบในบริเวณที่มีอาการเขียวช้ำ เพื่อให้เส้นเลือดแดง หรือเส้นเลือดฝอยหดตัวลง และทำให้เลือดมีการแข็งตัวขึ้น เลือดจึงไหลช้าลง ทำให้อาการเขียวช้ำค่อย ๆ ดีขึ้นครับ

และหลังจากดูดไขมันมาแล้ว 3 วัน ให้ประคบอุ่น โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดบริเวณที่มีอาการเขียวช้ำ เพราะความร้อนในระดับนี้ จะช่วยให้เส้นเลือดขยายตัวขึ้น เลือดจึงไหลกลับเข้าไปในเส้นเลือด ทำให้อาการเขียวช้ำดีขึ้นได้เช่นกัน

หิวบ่อย กินไม่อิ่ม

งดอาหารและยาบางชนิด

งดยาและอาหารเสริม ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด 2 สัปดาห์ เช่น Aspirin, Warfarin, Vitamin E, Fish oil และ Ginko เป็นต้น เพราะอาจทำให้แผลหายช้าลงได้ นอกจากยาและอาหารเสริมแล้ว ควรงดอาหารบางชนิดด้วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อและทำให้แผลหายช้า อาทิ อาหารไม่สะอาด อาหารทะเล อาหารเค็ม ของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารที่มีน้ำตาลสูง และการสูบบุหรี่ด้วยเช่นกัน

อ่านบทความเพิ่มเติม

รีวิวดูดไขมัน

สวมชุดกระชับสัดส่วนอย่างเหมาะสม

การสวมชุดกระชับหลังดูดไขมัน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลัก ที่จะช่วยให้สัดส่วนของเราเข้ารูปเร็วขึ้น และเห็นผลชัดเจน นอกจากจะทำให้ผิวหนังกระชับติดกับกล้ามเนื้อเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยลดอาการบวมช้ำเขียวได้อีกด้วย เพราะชุดกระชับจะทำให้มีการกดทับในบริเวณที่มีอาการดังกล่าว จึงทำให้เลือดหยุดไหล เป็นผลให้อาการบวมช้ำเขียวค่อย ๆ จางหายไปครับ

แนะนำให้สวมชุดกระชับวันละ 18-20 ชั่วโมง และปลดตะขอเพื่อคลายชุดกระชับ 30-60 นาที ทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้มีปัญหาแผลกดทับ สำหรับความแน่นให้ใส่แบบพอดีกระชับ เพราะถ้าสวมแน่นเกินไป อาจทำให้มีอาการบวมส่วนปลายและมีแผลกดทับได้ ให้ใส่ในระดับความแน่นที่สามารถสอดนิ้วมือไปได้ 1-2 นิ้ว และรู้สึกได้ถึงความกระชับตัวของสัดส่วน

ไม่หักโหม ทำอะไรหนัก ๆ งดใช้แรง

หลังดูดไขมันใน 2 สัปดาห์แรก ให้งดทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรง หรือขยับเขยื้อนร่างกายมาก ๆ ไปก่อนนะครับ เช่น การออกกำลังกาย หรือการยกของหนัก เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบ และการบวมมากขึ้นกว่าเดิม แถมยังทำให้สัดส่วนเข้าที่ช้าลงอีกด้วยครับ

ลดสะโพก

ออกกำลังกาย เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน

หลังดูดไขมันไปแล้ว 2 สัปดาห์ สามารถเริ่มออกกำลังกายแบบเบา ๆ ได้ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันส่วนเกิน นอกจากนี้ ยังช่วยให้สัดส่วนเข้าที่เร็วขึ้น ส่วนใครที่ต้องการออกกำลังกายแบบหนักหรือเต็มที่ให้เริ่มได้ หลังจากที่ดูดไขมันไปแล้ว 1 เดือน

สำหรับกรณีที่คนไข้มีการเติมไขมันร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเติมไขมันหน้าอก, เติมไขมันหน้าเด็ก, เติมไขมันสะโพก หรือเติมไขมันหลังมือ ควรงดออกกำลังกายทุกชนิดใน 1 เดือนแรก เพราะไขมันยังไม่เข้าที่ ยังไม่ติดดี หากออกกำลังกาย ร่างกายอาจดึงไขมันในส่วนที่เติมไปเผาผลาญได้ ส่งผลให้ไขมันสลายตัว และติดน้อยลงครับ

สรุป

สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่สนใจในการดูดไขมันลดสัดส่วน อยากรู้ว่าหลังจากดูดไขมันไปแล้ว Size เราจะเล็กลงขนาดไหน หรือสัดส่วนเล็กลงมากน้อยเพียงใด สามารถเข้ามาปรึกษาหมอได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ เพื่อให้หมอสามาถรประเมินรูปร่างและสัดส่วนของคนไข้ ได้อย่างแม่นยำและตรงจุดมากขึ้นครับ ติดต่อนัดคิวกับเจ้าหน้าที่ ผ่านช่องทางด้านล่างนี้เลยครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

KOL Trainer
แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)

ทำไมต้องดูดไขมันที่ Amara Clinic?

Amara Clinic ศูนย์ดูดไขมัน เติมไขมัน กระชับสัดส่วนเฉพาะทาง นำโดย KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน-เติมไขมัน ทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และทีมดูแลหลังดูดไขมันมีประสบการณ์ในด้านนี้สูง พบเจอกับคนไข้เคสดูดไขมัน-เติมไขมันทุกวัน (กว่า 95% ของคนไข้ที่คลินิกเป็นคนไข้ดูดไขมัน-เติมไขมัน) เราเน้นการดูดไขมันอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาสวย สมส่วน ดูธรรมชาติ และปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้ เรายังได้รับการยอมรับและได้รับรางวัลการันตีผลงานมากมาย! 

เรายึดมั่นในมาตรฐานเป็นหลักและเราจะไม่ยอมลดมาตรฐานลงอย่างแน่นอน! อาทิ เครื่องมือ-อุปกรณ์ที่ทันสมัย, ห้องผ่าตัดมาตรฐานคลีนรูม ปลอดเชื้อ 99.97%, ดูแลใส่ใจทุกเคสทุกขั้นตอน จนกว่าสัดส่วนจะเข้าที่สวย และมีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด โดยทีมแพทย์และพยาบาล

  • ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Body-jet Education Center
  • ได้รับรางวัล The Most Body-jet Users ติดต่อกัน 4 ปีซ้อน
  • ได้รับรางวัล J Plasma No. 1 in Asia of Procedures Done in 2020 – 2021 ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน
  • คลินิกที่มีรีวิวดูดไขมันและรีวิวเติมไขมันเยอะที่สุดในประเทศไทย จนได้รับรางวัลเพียบ!
  • ห้องผ่าตัดได้มาตรฐานความปลอดภัย มีระบบ Positive Pressure และระบบอื่น ๆ อย่างครบครัน
  • วางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์แบบ 1:1 (วิสัญญีแพทย์ 1 คน ดูแลคนไข้ 1 คน)
  • รับประกันผลงาน 6 เดือน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับเคสที่ดูดไขมันแบบวางยาสลบ

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย