ใครที่มีหน้าท้องตึง ๆ หรือป่องออกมามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม ต้องระวังไว้นะครับ เพราะอาการนี้ อาจบ่งบอกได้ว่าคุณมี ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) อยู่เยอะ!! เจ้าไขมันช่องท้องตัวนี้มีความอันตรายมากนะครับ เรียกได้ว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคอ้วน และทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ที่ทำร้ายสุขภาพร่างกายตามมาอีกเพียบ ถ้ารู้ตัวแล้วว่าตัวเองน่าจะมีไขมันช่องท้องเยอะ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ถ้าสามารถกำจัดออกไปจากร่างกายได้ สุขภาพดีขึ้นแน่นอน!! – หมอไอซ์ Amara Clinic ก่อนอื่น เดี๋ยวเราไปทำความรู้จักกันก่อนครับว่า ไขมันช่องท้อง หรือ Visceral Fat คือ ไขมันอะไร
ไขมันในช่องท้อง หรือ Visceral Fat คือ เป็นไขมันชนิดหนึ่งของร่างกาย ที่พอกตัวและแทรกซึมอยู่ในอวัยวะภายในช่องท้อง เช่น ตับ (ไขมันพอกตับ), กระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็ก เป็นต้น อีกทั้ง ตัวไขมันในช่องท้องนี้ ยังสามารถแทรกซึมเข้าไปอยู่ในหลอดเลือดแดงของเราได้ด้วยนะครับ ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราได้
ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง หรือ Subcutaneous Fat คือ ไขมันที่เกิดจากพลังงานส่วนเกินที่หลงเหลืออยู่ จากการที่เรารับประทานอาหารเข้าไปเยอะ ๆ นี่เองครับ หากเราใช้ชีวิตแบบด้วยพฤติกรรม ที่ไม่ได้กระตุ้นให้เกิดการเผาผลาญมากนัก ร่างกายก็จะไม่ได้ดึงไขมันในช่องท้องออกมาใช้ ดังนั้น นานวันเข้าไขมันในช่องท้องยิ่งเพิ่มขึ้นครับ ถ้ายังมีพฤติกรรมการกิน และการใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ อยู่
ข้อมูลตารางเปรียบเทียบประเภทไขมัน |
|||
ประเภทของไขมัน |
ไขมันในอวัยวะ (Organ Fat) |
ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) |
ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) |
ตำแหน่งของไขมัน |
ภายในอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ หัวใจ ไต และ ลำไส้ |
ใต้ชั้นผิวหนัง เหนือขึ้นมาจากกล้ามเนื้อ |
เกาะตามอวัยวะภายในร่างกาย |
ความอันตราย |
มาก |
น้อย |
ปานกลาง |
เมื่อออกกำลังกาย+คุมอาหาร |
ลดยากที่สุด |
ลดเร็ว |
ลดยาก |
ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง (โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน มะเร็ง และ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ) |
เสี่ยงสูง |
เสี่ยงน้อย |
เสี่ยงปานกลาง |
ไขมันในช่องท้องอันตรายแค่ไหน?
ไขมันในช่องท้อง หรือ Visceral Fat คือ ชนิดไขมันที่ส่งผลกับสุขภาพของเราโดยตรง แตกต่างจากไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ที่ส่งผลต่อความสวยงามของรูปร่างเท่านั้น ไม่ได้ทำสุขภาพแย่ลงเลย คนที่มีไขมันในช่องท้องเยอะ จะมีลักษณะเป็นหน้าท้องตึง ๆ แน่น ๆ โดยเฉพาะคุณผู้ชายที่มักจะออกไปสังสรรค์เป็นประจำ (ดื่มแอลกอฮอล์เยอะ)
ความอันตรายของไขมันในช่องท้อง มีที่มาที่ไปคือ หลังจากที่มีการสะสมของไขมันในช่องท้องแล้ว เมื่อไขมันช่องท้องนี้สลายตัวเป็นกรดไขมันอิสระ มันก็จะเข้าไปขัดขวางกระบวนการเผาผลาญกลูโคสในกล้ามเนื้อ เป็นเหตุให้เกิดภาวะดื้ออินซูลิน น้ำตาลในร่างกายก็พุ่งสูงขึ้น สุขภาพร่างกายก็จะแย่ลง และโรคที่อันตราย ๆ ก็จะค่อย ๆ คลืบคลานเข้ามาครับ เห็นไหมครับว่าไขมันช่องท้องมีความอันตรายมาก ๆ เลย ส่วนโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้จากไขมันช่องท้องจะมีอะไรบ้างนั้น เราไปติดตามในหัวข้อถัดไปได้เลย
โรคที่เกิดจากไขมันในช่องท้อง
ไขมันในช่องท้อง Visceral Fat คือ ไขมันตัวร้ายชนิดที่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สุขภาพร่างกายของเราแย่ลง เกิดโรคต่าง ๆ ขึ้นมากมาย โดยเฉพาะโรคอ้วน และโรคแทรกซ้อนทั้งหลายที่ตามมา
ตัวอย่างโรคที่เกิดจากไขมันช่องท้อง ได้แก่ โรคอ้วน, โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดอุดตัน, โรคหลอดเลือดสมองตีบ, โรคไขมันพอกตับ, โรคความดันสูง, โรคมะเร็ง, โรคนิ่วในถุงน้ำดี, โรคกรดไหลย้อน, โรคข้อเข่าเสื่อม, ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และรวมไปถึงการที่ประจำเดือนของเรามาผิดปกติด้วย
การตรวจวัดไขมันในช่องท้อง
- การวัดเส้นรอบเอว เพื่อดูความเสี่ยง
- การคำนวณ Waist-to-Hip Ratio
- การคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)
- การใช้เครื่องชั่งน้ำหนักวัดมวลไขมัน
- การตรวจด้วยตนเอง หรือ Pinch Test
การวัดเส้นรอบเอว (Waist circumference)
การตรวจความเสี่ยงของไขมันในช่องท้องวิธีนี้ ทำได้โดยการใช้สายวัด วัดบริเวณรอบเอว ในตำแหน่งสะดือ และตอนที่หายใจออก ซึ่งการวัดเส้นรอบเอวนั้น จะต้องวัดแบบพอดีตัว ไม่รัดแน่นหรือหลวมเด็ดขาด ซึ่งขนาดเส้นรอบเอวของคนปกติทั่วไปคือ ผู้หญิงที่มีรอบเอวไม่เกิน 32 นิ้ว และผู้ชายที่มีรอบเอวไม่เกิน 36 นิ้ว หากเกินกว่านี้ แปลว่ามีความเสี่ยงสูง ที่จะมีไขมันช่องท้องอาศัยอยู่
การคำนวณ Waist-to-Hip Ratio
การคำนวณ Waist-to-Hip Ratio คือการคำนวณอัตราส่วนรอบเอวต่อรอบสะโพก ซึ่งวิธีนี้ เป็นวิธีที่ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้การยอมรับและแนะนำ การคำนวณ Waist-to-Hip Ratio เพื่อดูความเสี่ยงของไขมันในช่องท้อง มีวิธีการดังนี้
- ใช้สายวัด วัดส่วนที่คอดที่สุดของช่วงเอว (ซม.)
- จากนั้น ให้วัดบริเวณรอบสะโพกต่อ (ซม.)
- นำตัวเลขที่ได้จากการวัดรอบเอว และรอบสะโพกมาหารกัน
- เมื่อได้เลขทศนิยม 2 หลักแล้ว ให้ดูค่าความเสี่ยงตามนี้
-
- ผู้หญิง ไม่ควรมีค่ามากกว่า 0.80
- ผู้หญิง ไม่ควรมีค่ามากกว่า 0.95
การคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI)
การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI : Body Mass Index) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินสภาวะของร่างกาย ว่ามีความเสี่ยงของโรคอ้วนมากน้อยเพียงใด (โรคอ้วนเกิดจากไขมันในช่องท้อง หากมีไขมันในช่องท้องมาก = มีความเสี่ยงมาก) เราจึงสามารถใช้วิธีนี้คำนวณสุขภาพร่างกายเราอย่างคร่าว ๆ ได้ง่าย ๆ เพียงเอาน้ำหนัก (กิโลกรัม) ÷ ส่วนสูง (เมตร) ยกกำลัง 2 และดูค่าที่ได้ออกมา
ตัวอย่างเช่น : A น้ำหนัก 64 กิโลกรัม มีส่วนสูง 1.58 เมตร (158 เซ็นติเมตร)
นำ 64 ÷ 1.58 ÷ 1.58 = BMI 25.6 (มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนสูง)
ตารางเช็คความเสี่ยงของโรคอ้วน (BMI)
ทำความรู้จักกับ “ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index:BMI)” ให้มากยิ่งขึ้นที่บทความ : BMI คือ
การใช้เครื่องชั่งน้ำหนัก Body Fat
เครื่องชั่งน้ำหนัก Body Fat เป็นเครื่องที่สามารถวัดมวลต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ ทั้งมวลไขมันทั้งหมด มวลกล้ามเนื้อ และแน่นอนว่าสามารถดูระดับของไขมันในช่องท้องได้ด้วยครับ ว่าเรามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน สำหรับคนที่มีการเข้าฟิตเนสไปออกกำลังกายอยู่แล้ว ก็คงจะคุ้นเคยกับเครื่องนี้เป็นอย่างดี
การลดไขมันในช่องท้อง ทำอย่างไร?
อย่างที่เราทราบกันแล้วว่า ไขมันในช่องท้อง Visceral Fat คือไขมันที่อยู่ภายในช่องท้องของเรา และพอกตัวตามอวัยวะต่าง ๆ ดังนั้น เราจึงไม่สามารถใช้วิธีการดูดไขมันหน้าท้องออกมาได้อย่างแน่นอน รวมไปถึงการฉีดสลายไขมันหน้าท้อง หรือการนวดสลายไขมันด้วยเช่นกัน เพราะวิธีเหล่านี้ ไม่สามารถลงลึกทะลุผ่านกล้ามเนื้อหน้าท้อง เข้าไปอยู่ภายในช่องท้องของเราได้
Visceral fat ลดยังไง? วิธีลดไขมันในช่องท้อง ต้องอาศัยระบบการเผาผลาญไขมันของร่างกายเท่านั้น แปลว่าเราก็ต้องมีวินัยกับตัวเองให้มาก ๆ นั้นเองครับ หลาย ๆ คนเดาไม่ผิดเลยครับ เพราะวิธีดังกล่าวคือการอออกกำลังกาย และการควบคุมอาหาร ที่เรารู้แก่ใจกันดีว่าช่วยลดไขมันได้
แน่นอนว่าการออกกำลังกาย จะต้องลงมือออกแรงทำอย่างสม่ำเสมอ แต่การควบคุมอาหารและปรับพฤติกรรมการกินนั้น สามารถทำได้โดยอาศัยวินัยของตัวเอง และการใช้ตัวยาเข้ามาช่วยครับ (อ่านเพิ่มเติม : วิธีลดพุงผู้หญิงเร่งด่วน 3 วัน)
1. การออกกำลังกาย กระตุ้นการเผาผลาญ
การกินแล้วนั่งเฉย ๆ หรือการกินแล้วนอน ไม่ค่อยได้มีการขยับร่างกายบ่อย ๆ ก็ทำให้เกิดไขมันในช่องท้องได้ครับ เนื่องจากร่างกาย ไม่ได้กระตุ้นให้เกิดการเผาผลาญพลังงานส่วนเกินที่เรากินเข้าไป จึงเกิดการสะสมของไขมันหน้าท้องขึ้น ดังนั้น ถ้าอยากลดไขมันช่องท้องลง เพื่อให้เราห่างไกลโรคต่าง ๆ มากขึ้น เราควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 45 นาที นะครับ
ซึ่งการออกกำลังกายนั้น ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องทำในฟิตเนส หรือสวนสาธารณะเท่านั้น เราสามารถออกกำลังกายในบริเวณบ้านของเรา หรือในระหว่างการเดินทางได้เลย เช่น เพิ่มการเดินให้มากขึ้น, เดินไปแกว่งแขนไป, การแขว่งขา หรือการซอยเท้าบ่อย ๆ ส่วนท่าออกกำลังกาย เพื่อลดไขมันในช่องท้องที่แนะนำคือ การออกกำลังกายแบบแอโรบิค, T25, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ หรือแม้แต่การทำงานบ้านก็ลดได้ด้วยนะครับ
2. การควบคุมอาหาร / ปรับการกิน
การลดไขมันช่องท้อง Visceral Fat คือ ต้องควบคุมอาหารครับ เพราะพฤติกรรมการกินอาหารของคนเราสำคัญมากถึง 70% เมื่อเทียบกับการออกกำลังกาย ดังนั้น ถ้าคุณมีความตั้งใจว่าอยากลดไขมันในช่องท้อง อยากให้หน้าท้องเล็กลง รอบเอวเล็กลง และอยากให้สุขภาพดีขึ้น การปรับพฤติกรรมการกินเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้! ควรกินเท่าที่ร่างกายต้องใช้จริง ๆ เมื่อรู้สึกอิ่มให้หยุด ไม่พยายามยัดเข้าไปอีก ต้องเลือกกินอาหารที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงอาหารที่ยิ่งทำให้เกิดการสะสมของไขมันในช่องท้อง ดังนี้
อาหารที่ควรรับประทาน
- อาหารที่มีโปรตีนสูง
- อาหารที่มีไฟเบอร์สูง
- อาหารที่มีไขมันต่ำ ๆ
- อาหารรสเผ็ด, เปรียว และขม
- การดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ
อาหารที่ไม่ควรรับประทาน
- อาหารที่มีไขมันสูง
- อาหารที่มีน้ำตาลเยอะ
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- อาหารทอด, หวาน และมัน
3. การใช้ปากกาลดน้ำหนัก Amara Pen
ปากกาลดน้ำหนัก Amara Pen สามารถลดไขมันในช่องท้องลงได้อย่างปลอดภัย (ผ่านอย.) และทำให้สุขภาพร่างกายของผู้ใช้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ลงด้วยนะครับ ตัวนี้ผ่านการรับรองจากอย. ในประเทศไทย, เกาหลี และอเมริกามาแล้วว่าปลอดภัย สามารถลดน้ำหนัก และปรับพฤติกรรมการกินได้อย่างยั่งยืนได้จริง แต่จะต้องมีการจ่ายยาตัวนี้โดยแพทย์เท่านั้น ตามที่อย.ได้ระบุไว้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ครับ
ตัวยาที่อยู่ในปากกาลดน้ำหนัก Amara Pen นั้น ถูกสร้างขึ้นมาเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ตามธรรมชาติของร่างกาย แต่อยู่ได้นานกว่า จึงทำให้ผู้ที่ใช้ยาตัวนี้มีอาการอิ่มข้าวเร็ว ไม่ค่อยรู้สึกหิว กินเท่าที่ร่างกายต้องใช้จึง ๆ จากนั้นก็จะเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น ดึงไขมันในช่องท้องมาใช้มากขึ้น, ไขมันทั่วร่างกายลดลง, น้ำหนักลดลง, กระเพาะเล็กลง, รอบเอวลดลง, พฤติกรรมการกินค่อย ๆ เปลี่ยนไปอย่างถาวร และค่อย ๆ ทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นครับ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ : ปากกาลดน้ำหนัก Amara Pen
สำหรับคนที่สนใจจะลดไขมันช่องท้อง ด้วยการใช้ยาลดน้ำหนัก ต้องระวังด้วยนะครับ เพราะยาลดน้ำหนักบางตัว ที่มีราคาถูกมากตามท้องตลาด ขายโดยแม่ค้าทั่วไป ไม่ใช่แพทย์ ไม่ได้ผ่านการรับรองจากอย. จะมีความอันตรายมาก ๆ ครับ ดังนั้น หมอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลให้ดี และเลือกใช้ยาลดน้ำหนัก ที่จ่ายโดยแพทย์จะปลอดภัยที่สุด
อ่านบทความเพิ่มเติม
- พุงยื่นเพราะหลังแอ่น
- หน้าท้องใหญ่ แก้ยังไงได้บ้าง?
- ทำไมต้องปากกาลดน้ำหนัก Amara Pen? ดีกว่าที่อื่นยังไง?
สรุป
หวังว่าผู้อ่านจะได้รู้จักกับไขมันช่องท้องมากขึ้นกว่าเดิมกันแล้ว นอกจากนี้ยังพอจะรู้วิธีเช็คไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) แบบคร่าว ๆ กันแล้วนะครับ สรุปว่าคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคต่าง ๆ ตามที่หมอได้อธิบายไปรึเปล่าครับ? ถ้าไม่มีความเสี่ยง หรือดูท่าทางแล้วว่าตัวเองไม่น่าจะมีไขมันช่องท้อง หมอไอซ์ Amara Clinic ก็ดีใจด้วยนะครับ! แต่ถ้าใครที่มีความเสี่ยงหรือแนวโน้มนี้ ลองปรับพฤติกรรมการกิน และเลือกรักษาตามวิธีที่หมอได้แนะนำไปได้เลยนะครับ
ส่วนใครที่อยากลองใช้ Amara Pen สามารถนัดคิวปรึกษาหมอกับเจ้าหน้าที่ได้เลยนะครับ หมอจะมีการซักประวัติก่อน เพื่อดูว่าคนไข้เหมาะกับยาลดน้ำหนักตัวนี้หรือไม่ ก่อนที่จะจ่ายยาออกไปทุกครั้ง และหมอจะใช้เทคนิคการปรับยาให้เข้ากับแต่ละคน คนไข้หมอใช้แล้วเห็นผลทุกคน ปลอดภัยแน่นอนครับ
ปรึกษาแพทย์ ฟรี!
ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic