ดูดไขมัน BODY-JET นวัตกรรมดูดไขมันพลังน้ำ

ดูดไขมันพลังน้ำ body jet เจ็บน้อย ช้ำน้อย หายไว
ดูดไขมันพลังน้ำ body-jet คือ การสลายไขมันส่วนเกิน ด้วยพลังน้ำ ซึ่งจะไม่เกิดความร้อนใด ๆ ทำให้ลดอาการบาดเจ็บ และการเสียเลือดลง ทำให้เจ็บน้อย ระบมช้ำน้อย และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน อีกทั้งยังสามารถนำไขมันไปเติมต่อได้ (เติมไขมัน, ฉีดไขมัน)
การดูดไขมัน คืออะไร?
ดูดไขมัน (Liposuction) เป็นการนำไขมันส่วนเกินที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังออกมา กำจัดทิ้งไป เพื่อให้สัดส่วนบริเวณดังกล่าวเล็กลง การดูดไขมันประกอบด้วย 3 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนการ Tumescent, การแยกไขมัน (การสลายไขมัน)ให้แตกตัวออกจากกัน และการนำไขมันออกมา
ซึ่งการสลายไขมันนั้น จะใช้พลังงานต่าง ๆ เข้ามาช่วย โดยผ่านเครื่องดูดไขมันนั่นเอง เช่น เครื่องมือที่ใช้พลังงานน้ำ (Water Assisted Liposuction) คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ (Ultrasound) คลื่นวิทยุ (Radio frequency) การดูดไขมันเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมมาก ในบริเวณหน้าท้อง เอว ต้นแขน ต้นขา และน่องเป็นต้น
ความแตกต่างของเครื่องดูดไขมันแต่ละประเภท

body-jet ดูดไขมันพลังน้ำ นวัตกรรมจากเยอรมัน

เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet คือนวัตกรรมการสลายไขมันแบบใหม่จากประเทศเยอรมันดี ด้วยความโดดเด่นในการใช้พลังงานน้ำในการสลายไขมัน เครื่อง body-jet จึงจัดเป็นเครื่องดูดไขมันที่มีความอ่อนโยนสูงที่สุดในบรรดาเครื่องดูดไขมันทั้งหมด ไม่ก่อให้เกิดความร้อนใต้ผิวหนัง หลังดูดไขมันผิวจึงบวมช้ำน้อย ไม่เป็นคลื่น ไม่เป็นก้อนแข็งก้อนไต (แต่ทั้งนี้การดูดไขมันด้วย body-jet ให้เห็นผลดีขึ้นจะต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง)
และด้วยความพิเศษของตัวเครื่องที่สลายไขมันอ่อนโยน จึงทำให้ไขมันที่ดูดออกมายังมีชีวิตอยู่ (เซลล์ไขมันไม่แตกตัวเป็นน้ำมัน) ดังนั้นไขมันส่วนเกินในจุดนี้จึงสามารถนำไปใช้ในการเติมไขมันในส่วนที่ขาดต่อไปอีกด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็น
- ฉีดไขมันหน้าเด็ก
- ฉีดไขมันหน้าอก
- เติมไขมันหน้าผาก
- เติมไขมันใต้ตา
- ฉีดไขมันขมับตอบ
- เติมไขมันร่องแก้ม
- ฉีดไขมันแก้มตอบ
- เติมไขมันหลังมือ
- ฉีดไขมันก้นเด้ง
- เติมไขมันน้องสาว
ที่ Amara Clinic (เอมาร่าคลินิก) เราเป็น Body-jet Trainging Center หรือ ศูนย์การสอนดูดไขมันและเติมไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ ประจำประเทศไทย ที่คลินิกเราเลือกใช้เครื่องดูดไขมัน body-jet ในการสลายไขมัน ลดสัดส่วน ให้กับคนไข้มากที่สุดในไทยถึง 5 ปีซ้อน ด้วยการได้รับรางวัล The Most Body-jet Users ที่ได้รับจากทางบริษัท Technical Biomed นอกจากนี้แพทย์ที่เอมาร่าคลินิกยังเป็น KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าเอมาร่าคลินิกเรามีความพร้อมและมีความสามารถในการใช้เครื่อง Body-jet
ดูดไขมันพลังน้ำ body-jet อันตรายไหม?
ดูดไขมันพลังน้ำอันตรายไหม? เรื่องนี้คนไข้ไม่ต้องกังวลเลยครับ หากเลือกดูดไขมันกับแพทย์ตัวจริงที่เชี่ยวชาญ ในบรรดาเครื่องดูดไขมัน body-jet ถือว่าเกิดมาเพื่อคนไข้ที่มีความกังวลเรื่องของผลข้างเคียง และกลัวการใช้เครื่องดูดไขมันชนิดที่ก่อให้เกิดความร้อนอย่างมากเลยครับ
ตัวหัวเข็มของเครื่อง body-jet จะมีลักษณะเป็นหัวทู่ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ ใครที่คิดว่าดูดไขมันแล้วเข็มจะแทงถึงไส้ เรื่องนี้ถือว่าพูดเกินจริงไปอย่างมากครับ ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอนครับ
นอกจากนี้พลังงานหลักของตัวเครื่องคือใช้น้ำในการสลายไขมัน เมื่อตัวเครื่องทำงาน น้ำที่เป็นพลังงานหลักจะทำหน้าที่สลายเซลล์ไขมันที่จับตัวกันเป็นพวงองุ่น โดยคอย ๆ แยกออกอย่างอ่อนโยน ความอันตรายในเรื่องผิวหนังไหม้หลังดูดไขมันคือตัดทิ้งไปได้เลยครับ หากเลือกดูดไขมันด้วยเครื่อง body-jet
แต่หมอก็ต้องขอย้ำอีกครั้งว่าเครื่องดูดไขมัน body-jet จะปลอดภัยต่อคนไข้ที่สุด ก็ต่อเมื่อมีแพทย์ วิสัญญีแพทย์ และพยาบาลอยู่ดูแลตลอดการผ่าตัด รวมทั้งห้องผ่าตัดจะต้องมีระบบ Positive Pressure เพื่อให้อากาศในห้องผ่าตัดปลอดเชื้อที่สุด การดูดไขมันด้วย body-jet จึงจะปลอดภัย ไร้กังวล และได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม


Amara Liposuction Center
ได้รับรางวัล Leader Of Body-jet® Liposuction And Fat Transfer
จากงาน AESLA Awards 2023 ณ โรงแรม Rosewood Bangkok
“เอมาร่าขอขอบคุณผู้ใช้บริการทุกท่าน ที่ให้ความไว้ว่างใจในการดูแลเรื่องรูปร่างด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำกว่าครึ่งทศวรรษ จนได้รับรางวัลคลินิกที่มีเคสดูดไขมันพลังน้ำเยอะที่สุดในไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 6 หมอและเอมาร่าขอให้คำมั่นว่า เราจะไม่หยุดพัฒนาศักยภาพด้านการดูดไขมัน เพื่อให้คนไทยได้มีรูปร่างในฝันที่สวยอย่างปลอดภัย”
หมอไอซ์ KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน-เติมไขมันพลังน้ำ

Amara Clinic ได้รับรางวัล The Most body-jet Users
เคสดูดไขมันพลังน้ำเยอะที่สุดในประเทศไทย




การเติมไขมันก้นเด้ง ช่วยแก้ปัญหาคนไม่มีก้น หรือก้นแฟ่บ เหมาะกับคนที่ต้องการให้สะโพกผาย ก้นกลม หรือคนที่ต้องการให้รูปร่างเป็นหุ่นนาฬิกาทราย แบบสาวสายฝ.
ดูดไขมันเติมก้นเด้ง Signature ของหมอไอซ์ Amara Clinic ตามไปดูรีวิวเพิ่มเติม คลิกปุ่มด้านล่างนี้เลย!
ดูดไขมันพลังน้ำ body-jet อ่อนโยนที่สุด
เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet สามารถดูดไขมันทั้งตัวได้ ขึ้นอยู่กับความกังวลใจของคนไข้ และจะรู้ว่าควรดูดไขมันกี่จุด ดูดไขมันต้นขากี่จุด ต้องดูดตรงไหนเพิ่มบ้าง ต้องดูดไขมันหัวเข่าเพิ่มหรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน สัดส่วน โครงร่างของคนไข้ และการประเมินของแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมันกรอบหน้า,ดูดไขมันเหนียง, ดูดไขมันหน้าท้อง, ดูดไขมันเอวเอส, ดูดไขมันต้นแขน, ดูดไขมันต้นขา, ดูดไขมันน่อง ฯลฯ และสามารถดูดไขมันได้ปริมาณมาก
การดูดไขมันด้วยเครื่อง body-jet สามารถดูดได้ปริมาณมาก แต่ก็ใช้ระยะเวลานานมากขึ้นเช่นกัน แต่ก็มีข้อดีคือ จะไม่เกิดการเผาไหม้ ผิวไม่ Burn เส้นประสาทและเส้นเลือด รวมถึงเนื้อเยื่อข้างเคียงไม่ถูกทำลาย มีเลือดออกน้อยมาก ผิวจะเรียบเนียน ไม่เกิดเป็นคลื่น ไม่เกิดพังผืด มีแผลเล็กหลังทำเพียง 3 – 5 มม. เท่านั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่อง body-jet : ข้อดีข้อเสีย ของเครื่องดูดไขมัน body-jet
ขั้นตอนการดูดไขมัน body-jet

Body-jet ใช้เทคโนโลยีพลังน้ำ ฉีดพ่นเข้าไปที่ชั้นไขมัน ในรูปแบบพัด (Fan Shape) เพื่อให้เซลล์ไขมันที่เกาะติดกันแน่น และเกี่ยวพันกับเส้นเลือดเส้นประสาท แยกออกจากกัน แ และลอยอยู่ในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ในขณะเดียวกันเซลล์ไขมันก็จะถูกดูดออกมาอย่างอ่อนโยน

เครื่องดูดไขมัน body-jet จะช่วยให้ได้เซลล์ไขมันมีคุณภาพดี สามารถนำไปเติมเต็ม ปลูกถ่ายต่อได้ (Fat Grafting, Fat Transfer, Fat Filler, Lipoflling) เมื่อดูดไขมันเสร็จแล้ว แพทย์จะใช้เทคนิคซ่อนแผลแบบพิเศษ แผลจึงมีขนาดเล็ก ทำให้หลังดูดไขมันแทบมองไม่เห็นแผล ช่วยให้คนไข้สามารถอวดรูปร่าง เผยสัดส่วนได้อย่างมั่นใจ

ข้อดีของเครื่อง body-jet
- สามารถดูดไขมันได้ทุกสัดส่วน
- ดูดไขมันได้ในปริมาณมาก
- ไม่ต้องดมยาสลบ ใช้ยาชาก็เอาอยู่
- ไม่ต้องพักฟื้นหลังดูดไขมัน
- ดูดไขมันเสร็จแล้ว กลับบ้านได้เลย
- ผิวเรียบเนียน ไม่เป็นคลื่น ไม่บุ๋ม
- ระหว่างดูดไขมัน ไม่เจ็บ
- แผลเล็ก เพียง 3-5 มิล
- บวมน้อย บอบช้ำน้อย
- เอาไขมันไปเติมได้
ข้อเสียของเครื่อง body-jet
- ใช้เวลาดูดไขมันนานกว่าปกติ เพราะเป็นการสลายไขมันอย่างอ่อนโยน โดยใช้แรงดันน้ำค่อย ๆ ฉีดพ่นเข้าไป เซาะให้เซลล์ไขมัน แตกตัวออกจากกัน
- สัดส่วนจะไม่เล็กลงในทันที หลังดูดไขมันด้วย body-jet แต่ละค่อย ๆ ลดลง หลังจากดูดไขมันมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ – 1 เดือน
ดูดไขมันอันตรายไหม? ปลอดภัยแค่ไหน?
การดูดไขมันในปัจจุบัน มีความปลอดภัยสูงกว่าการดูดไขมันสมัยก่อนมาก เพราะเทคโนโลยีได้พัฒนามามาก อีกทั้งมาตรฐานในการรักษา ยังสูงกว่าเมื่อก่อนอีกด้วย ดังนั้น การดูดไขมันในสมัยนี้จึงมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้! ต้องไม่ลืมที่จะตรวจสอบมาตรฐานของคลินิกด้วยว่า แพทย์มีความเชี่ยวชาญมากน้อยเพียงใด? มีห้องผ่าตัดปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน? รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ก่อนการตัดสินใจเลือกคลินิกดูดไขมัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
มาตรฐานห้องผ่าตัดที่ควรมี เพื่อความปลอดภัย ต้องมีอะไรบ้าง?
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะเลือกคลินิกดูดไขมัน ควรอ่านเรื่องของ ปัจจัยในที่พิจารณาคลินิกดูดไขมัน ที่บทความ : ดูดไขมันที่ไหนดี ?
ทำไมดูดไขมันแล้ว น้ำหนักไม่ลดลงเลย?
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การดูดไขมันนั้นไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการลดสัดส่วน เมื่อดูดไขมันไปแล้ว น้ำหนักจะไม่ได้ลดลง แต่จะได้สัดส่วนเล็กลง เพรียวมากขึ้น
กล่าวคือไขมันนั้น มีน้ำหนักน้อยมาก เมื่อเทียบกับน้ำหนักของกล้ามเนื้อ แม้ทั้งสองสิ่งนี้จะมีขนาดใหญ่เท่ากัน แต่น้ำหนักของกล้ามเนื้อ จะมากกว่าน้ำหนักของไขมันถึงสามเท่า
ยกตัวอย่างเช่น เรากับเพื่อนน้ำหนักเท่ากัน แต่มีสัดส่วนที่แตกต่างกัน (เราไม่ออกกำลังกาย ทานแต่อาหารทอด ของหวาน มีไขมันสะสมเยอะ แต่เพื่อนกลับหุ่นดี สัดส่วนเล็ก เพราะไม่ทานของหวาน และออกกำลังกาย)
ดูดไขมัน body-jet อย่างมีคุณภาพ
การดูดไขมันที่มีคุณภาพนั้น ไม่ใช่การที่ดูดไขมันให้ออกมาได้มากที่สุด แต่เป็นการดูดไขมันในปริมาณที่พอเหมาะ ปริมาณจะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับสัดส่วน สรีระ มวลไขมัน รวมถึงโครงสร้างร่างกาย ของคนไข้แต่ละคน โดยผ่านการออกแบบจากแพทย์มาแล้ว

คุณหมอไอซ์ สอนดูดไขมัน Body-jet
การดูดไขมันในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจสูงสุด และลดการเกิดผลข้างเคียง เช่นผิวเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบได้ ยิ่งถ้าเป็นการดูดไขมันพลังน้ำ จะมีผลข้างเคียงน้อยมาก หลังทำผิวจะเรียบ ไม่เป็นคลื่น สลายไขมันอย่างอ่อนโยน ทำให้เจ็บน้อย หลังทำใช้เวลาพักฟื้นน้อย
ดูดไขมัน body-jet ตรงไหนได้บ้าง?
ไขมันจะกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ภายในร่างกาย คือไขมันใต้ชั้นผิวหนัง, ไขมันในช่องท้อง, ไขมันที่แทรกตามกล้ามเนื้อ และไขมันที่อยู่ในหลอดเลือด ไขมันที่เราสามารถดูดออกมาได้ มีเพียงไขมันใต้ชั้นผิวหนังเท่านั้น

ไขมันในชั้นนี้ไม่เป็นอันตราย แต่มีผลต่อภาพลักษณ์ภายนอก และความสวยงาม ไขมันในชั้นนี้นี่เอง ที่เป็นตัวการทำให้เราดูอวบ ดูอ้วน แต่บางรายที่มีห่วงยางรอบเอว หรือหน้าท้องยื่นเกินไป สาเหตุอาจจะไม่ได้มาจากไขมันใต้ชั้นผิวหนัง จริง ๆ แล้ว เป็นไขมันในช่องท้อง ที่พอกอยู่รอบ ๆ อวัยวะภายใน ไขมันในส่วนนี้ไม่สามารถดูดออกมาได้ จะต้องอาศัยการเผาผลาญของร่างกายเท่านั้น

ตำแหน่งดูดไขมันที่นิยม
- ดูดไขมันต้นแขน
- ดูดไขมันหน้าท้อง
- ดูดไขมันเอวเอส
- ดูดไขมันต้นขา
- ดูดไขมันน่อง
- ดูดไขมันเหนียง
ตำแหน่งฉีดไขมันที่นิยม
- ฉีดไขมันหน้าเด็ก
- ฉีดไขมันหน้าอก
- ฉีดไขมันก้น
- ฉีดไขมันมือ
ดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน body-jet
หลังดูดไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ หากต้องการให้ผลลัพธ์หลังดูดไขมันออกมาดีที่สุด และพึงพอใจที่สุด ควรดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี จะช่วยให้บริเวณที่ดูดไขมันบอบช้ำน้อย ลดการเกิดก้อนไต พักฟื้นไว และเห็นผลเร็ว

- ทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ โดยปกติจะเป็นยาฆ่าเชื้อ, ยาลดบวม, ยาลดอักเสบ และยาแก้ปวด ทั้งนี้ แนะนำให้ทาน Vitamin C และ Vitamin B Complex เสริม เพื่อให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น
- สวมชุดยกกระชับวันละ 18-20 ชั่วโมง และปลดตะขอชุดกระชับเพื่อพักได้ ครั้งละ 30-60 นาที ทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง ช่วยป้องกันไม่ให้มีปัญหาแผลกดทับ
- ดื่มน้ำวันละประมาณ 1-2 ลิตร หากมีอาการอ่อนเพลียสามารถดื่มเกลือแร่ได้
- งดยา และอาหารเสริม ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด 2 สัปดาห์ (Aspirin, Warfarin, Vitamin E, Fish oil, Ginko)
- งดอาหารไม่สะอาด อาหารทะเล อาหารเค็ม ของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารที่มีน้ำตาลสูง
- ป้องกันไม่ให้น้ำเข้าแผลดูดไขมัน เพราะจะทำให้แผลแฉะและเสี่ยงติดเชื้อได้
- ทำความสะอาดแผลทุกวันจนกว่าจะตัดไหม หากเหงื่อออกมากหรือแผลเปียกชื้น ให้เปลี่ยนผ้าก็อซใหม่ทันที
- รับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ โดยเน้นการทานโปรตีนจาก เนื้อปลา ไข่ นมถั่วเหลือง และธัญพืช
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้สูง แผลผ่าตัดบวมแดงร้อน คลื่นใส้อาเจียนมาก มีแผลจากการใส่ชุดกระชับ ให้รีบมาพบแพทย์