ฉีดไขมัน (Fat Grafting) คืนผิวเด็ก ปรับสัดส่วน ไม่เสี่ยงแพ้!

fat-grafting

         การฉีดไขมัน เป็นวิธีการเติมเต็มผิวด้วยไขมันตัวเอง ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสี่ยงในการแพ้สารเติมเต็มชนิดอื่น ๆ และมีอัตราความสำเร็จสูงโดยไม่ต้องเติมซ้ำหลายครั้งจึงจะเห็นผล ทำให้การฉีดเติมไขมันเป็นทางเลือกแรก ๆ ในการเติมเต็มผิวหรือปรับสัดส่วน – หมอไอซ์ Amara Liposuction Center

ฉีดไขมัน คืออะไร?


       การฉีดไขมัน (Fat Grafting) เป็นการนำไขมันตัวเองย้ายมาเติมในส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เรียกอีกอย่างว่าการถ่ายโอนไขมัน (Fat Transfer) โดยไขมันที่นำมาเติมจะเป็นไขมันจากตัวเราเอง ไม่เหมือนการฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นสารเติมเต็มซึ่งจะสลายตัวจนกระทั่งหมดไป ในขณะที่ไขมันจะเข้ากับเซลล์เดิมของเราได้ตามธรรมชาติ จึงอยู่ได้นานกว่าจนถึงอยู่ได้ถาวร

ตัวอย่างการฉีดไขมันแต่ละแบบ

เคสจริงจาก Amara Liposuction Center

 

9 ตำแหน่งในการเติมไขมัน


        การฉีดไขมันสามารถทำได้หลากหลายตำแหน่งเลยครับ เนื่องจาก ‘ไขมัน’ เป็นองค์ประกอบสำคัญของร่างกาย ไม่ได้มีแต่ข้อเสียอย่างเดียว แต่มันยังช่วยเติมเต็มส่วนต่าง ๆ ให้กลับมาอ่อนเยาว์ได้ด้วย

ฉีดไขมัน ตำแหน่ง - Fat grafting position

1.เติมไขมันทั่วหน้า

        การฉีดไขมันหน้า (Facial Fat Grafting) เป็นการเติมไขมันทั่วใบหน้า เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เรียกว่าการเติมไขมันหน้าเด็ก ช่วยเติมเต็มให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ลดอายุผิว เติมเต็มร่องลึก เพิ่มความอิ่มฟูให้ผิวได้มาก 

2.เติมร่องแก้มหรือร่องน้ำหมาก

        เป็นการเติมไขมันบริเวณร่องแก้มที่มักจะมีรอยย่น เรียกอีกอย่างเติมไขมันร่องน้ำหมาก ซึ่งร่องแก้มที่ลึกจะส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย เมื่อเติมไขมัน ร่องแก้มจะตื้นขึ้น ใบหน้าดูอวบอิ่ม เต่งตึง เหมือนย้อนวัยให้กลับมาเด็กอีกครั้ง

3. เติมหน้าผาก

        เป็นการเติมไขมันบริเวณหน้าผากเพื่อให้ใบหน้าดูสมส่วนมากขึ้น หรือในกรณีที่เรามีรอยย่นที่หน้าผาก ก็สามารถฉีดเพื่อเติมเต็มรอยย่นลึกได้ นอกจากนี้ ก็สามารถเติมไขมันเพิ่มบริเวณขมับ เพื่อให้หน้าได้รูปมากขึ้น (บางเคสต้องการฉีดไขมันเพื่อเสริมโหงวเฮ้งให้ใบหนาก็มีครับ)

4. ฉีดไขมันลดริ้วรอย

        เป็นการฉีดแบบเฉพาะจุด ซึ่งจะเน้นเติมบริเวณริ้วรอยร่องลึก เพื่อให้ผิวเต่งขึ้น นอกจากนี้เซลล์ของไขมันยังช่วยให้ผิวสุขภาพดีในระยะยาว เหมาะกับคนที่อายุมากขึ้น มีริ้วรอยบ้าง แต่หากผิวมีริ้วรอยร่องลึก อาจจะเลือกเติมไขมันทั่วหน้าแทน เพื่อให้ทั่วหน้าเต่งตึง

5. เติมเต็มไขมันใต้ตา

        เหมาะกับคนที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึกจนทำให้หน้าตาไม่สดใส การเติมไขมันใต้ตาจะช่วยเติมเต็มถุงใต้ตาให้ฟูขึ้นแบบพอดี ช่วยให้เบ้าตาอิ่ม ไม่ลึกโบ๋ นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องความคล้ำดำ เพราะเซลล์ไขมันช่วยฟื้นฟูผิวได้

6. เติมหน้าอก

การเติมไขมันหน้าอก เป็นการเสริมหน้าอกอย่างหนึ่งครับ ซึ่งจะมีทั้งการเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเองล้วน ๆ และการเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเองร่วมกับซิลิโคน (Hybrid Dual Plane) โดยการเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเองจะมีจุดเด่นคือความเป็นธรรมชาติมากกว่าการใช้ซิลิโคนเพียงอย่างเดียว ช่วยแก้ปัญหาหน้าอกเล็ก หน้าอกไม่เท่ากัน หน้าอกหย่อนคล้อย หรือกรณีหน้าอกห่างที่มักเกิดขึ้นเมื่อสาวประเสทสองเสริมหน้าอก

7. เติมน้องสาว

        เป็นการฉีดเพื่อให้น้องสาวของเรามีความอวบอิ่ม ไม่ดูเหี่ยวหรือแฟบ ซึ่งมาจากเทรนด์กลีบอูฐแฟชั่นที่โด่งดังมานานครับ ว่ากันว่าน้องสาวที่อวบอิ่มหมายความถึงร่างกายที่อุดมสมบูรณ์และสุขภาพดีด้วย

8. เติมสะโพกหรือก้น

        เป็นการเติมไขมันบริเวณก้นและโดยรอบ เพื่อแก้ปัญหาสะโพกบุ๋ม มี Hip dip ก้นแบนหรือก้นไม่เท่ากัน เพราะการมีสะโพกที่กลมกลึงสวยงามนั้นเป็นที่ต้องการของสาว ๆ หลายคน การฉีดไขมันก้นจึงเป็นการปรับรูปร่างให้ดูสมส่วนมากขึ้น มีหุ่นแบบที่ต้องการได้ และออกมาเป็นธรรมชาติ ไม่เสี่ยงติดเชื้อด้วยครับ

9. เติมไขมันมือ

        เป็นการเติมไขมันเพื่อลดเลือนริ้วรอยหรือลดความเหี่ยวย่นของมือ ช่วยให้ผิวเต่งตึง มีน้ำมีนวลเหมือนยังสาว เหมาะกับคนที่มือเหี่ยว มือหย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอยจากอายุที่มากขึ้นครับ มือมักเป็นส่วนที่เราเผลอมองข้ามกันบ่อย ๆ แต่ความจริงแล้วเป็นส่วนที่บ่งบอกอายุได้เหมือนริ้วรอยส่วนอื่น ๆ เลยนะครับ

ก่อนฉีดไขมันต้องเตรียมตัวอย่างไร?


        การจะนำไขมันมาใช้ในการฉีดได้ เราจะต้องดูดไขมันของตัวเองออกมาก่อนครับ ดังนั้น ก่อนฉีดไขมัน เราจึงต้องเตรียมตัวเพื่อดูดไขมันกันก่อน ซึ่งจะมีแนวทางเหมือนกับการเตรียมตัวก่อนดูดไขมันทั่วไป ดังนี้

  • งดทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
  • ต้องไม่ตั้งครรภ์หรือมีแผนตั้งครรภ์ในช่วง 6 เดือนนี้
  • ไม่มีอาการป่วยหรือมีภาวะความดันสูง
  • หากดูดไขมันแบบวางยาสลบ ต้องนัดแนะให้ญาติพากลับบ้านได้
  • งดทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากเพราะจะทำให้ไขมันสลายได้ง่าย
  • แจ้งประวัติการรักษากับแพทย์ก่อนทำ

ขั้นตอนการเติมไขมัน 


        ขั้นตอนการฉีดไขมันนั้น ไม่ได้มีขั้นตอนซับซ้อนครับ เพียงแค่เราจะต้องทำการดูดไขมันออกมาก่อน นำเซลล์ไขมันไปคัดแยกให้ได้เซลล์ไขมันที่ดี แล้วก็สามารถนำมาเติมในส่วนที่ต้องการได้เลย โดยจะมีรายละเอียดดังนี้

ขั้นตอนการฉีดไขมัน Fat grafting

ดูดไขมันด้วย Body-Jet เพื่อให้ได้เซลล์ไขมันที่ยังมีชีวิต

        เครื่องดูดไขมันที่สามารถใช้ไขมันที่ดูดออกมาไปฉีดต่อได้ ปัจจุบันมีอยู่เครื่องเดียวคือ Body-Jet ครับ เนื่องจากเป็นเครื่องดูดไขมันที่ใช้พลังงานน้ำในการแยกเซลล์ไขมันออกมาแทนการใช้พลังงานที่ทำให้เกิดความร้อน ทำให้ได้เซลล์ไขมันที่ยังมีชีวิตอยู่

คัดกรองเซลล์ไขมันให้ได้เซลล์ไขมันคุณภาพดี

        หลังดูดไขมัน แพทย์จะนำไขมันที่ได้บรรจุในหลอดบรรจุ แล้วนำเข้าเครื่องมือกรองไขมันที่เรียกว่า LipoCube อีกทีหนึ่ง เพื่อให้ได้เซลล์ไขมันคุณภาพสูงขนาดเล็ก หรือ Nano Fat ซึ่งการคัดแยกนั้นสำคัญมาก เพราะไขมันในถังไขมันที่ดูดออกมาจะปะปนด้วยยาชาหรือ Tumescent น้ำเลือด และน้ำเหลืองของเรา หากนำไปเติมทั้งอย่างนั้นก็จะทำให้บริเวณนั้นบวมมากจากยาชาและน้ำเลือด เมื่อยุบบวมก็จะมีไขมันติดน้อย 

ฉีดไขมันเข้าไปตามตำแหน่งที่ต้องการ

        เมื่อได้ไขมันที่สมบูรณ์แล้ว แพทย์จะสามารถนำไขมันนั้นไปฉีดต่อได้ทันที โดยขั้นตอนนี้สำคัญมากต่อผลลัพธ์ เพราะเป็นส่วนที่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถของแพทย์ โดยเฉพาะการฉีดไขมันเพื่อปรับสัดส่วน ทั้งนี้ แพทย์จะเลือกฉีดไขมันเกินกว่าปริมาณที่กำหนดเอาไว้ เพราะไขมันที่ฉีดบางส่วนสามารถดูดซึมกลับคืนเข้าสู่ร่างกายได้

ดูดไขมันออกมาเท่าไหร่ ถึงจะพอต่อการฉีดไขมัน?


        สำหรับคนที่มีไขมันสะสมค่อนข้างเยอะ อาจจะไม่ได้มีความกังวลว่าไขมันของเราจะมีมากพอให้ฉีดได้หรือเปล่า แต่สำหรับคนที่ผอมมาก ๆ มักจะมีคำถามอยู่ตลอดว่าผอมขนาดนี้ จะเอาไขมันส่วนไหนมาเติม? มีไขมันแค่นี้จะพอหรือเปล่า? ต้องมีไขมันขนาดไหนถึงจะเอามาฉีดไขมันได้?

        โดยส่วนใหญ่ การตรวจสอบว่าเรามีไขมันมากพอที่จะนำมาฉีดได้หรือเปล่า เบื้องต้นสามารถเช็คเองได้จากการคำนวณค่าดัชนีมวลกายครับ หากผู้เข้ารับบริการมีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 25 ขึ้นไปก็เป็นระดับที่มีไขมันเพียงพอต่อการฉีดในพื้นที่ใหญ่ อย่างการฉีดหน้าอก เติมไขมันก้น หรือสะโพก

        ในขณะเดียวกัน หากเราต้องการเติมไขมันพื้นที่เล็ก ๆ อย่างการฉีดบริเวณหน้า ลำคอ หรือมือ ก็ไม่จำเป็นต้องวัดค่าดัชนีมวลกายครับ เพราะไขมันที่ใช้ฉีดจะอยู่ที่ 10-100 cc เท่านั้น เยอะขึ้นมาหน่อยก็จะเป็นการฉีดไขมันน้องสาวสูงสุดที่ 200 cc เทียบกับหน้าอก ก้น หรือสะโพกแล้วต้องใช้ไขมันถึง 100-1,000 cc (ต่อข้าง) ขึ้นไปเลยทีเดียวครับ

The Volume of fat for fat grafting

ฉีดไขมัน ราคาเท่าไหร่? คิดตามปริมาณที่ฉีดหรือเปล่า?


        การฉีดไขมันนั้นไม่ได้คิดตามปริมาณ cc เหมือนการฉีดฟิลเลอร์ครับ แต่จะเป็นการฉีดแบบเหมาทั่วบริเวณ ทั้งนี้ก็จะมีราคาค่าดูดไขมันเข้ามาเพิ่มด้วย ทำให้ดูเหมือนราคาค่อนข้างสูง เพราะไม่ได้มีแค่ค่าฉีดไขมันเพียงอย่างเดียว

        โดยค่าใช้จ่ายในราคาเริ่มต้นที่ 10,000 บาทขึ้นไปครับ รวมกับค่าดูดไขมันด้วยเครื่อง Body-Jet เริ่มต้นที่ 39,000 บาท ก็จะมีราคาฉีดไขมันรวม 49,000 บาทแบบไม่จำกัด cc ไม่คิดตามปริมาณ

ผลข้างเคียงของการเติมไขมันที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจ


        ผลข้างเคียงของการฉีดไขมันนั้นจะมีแค่อาการบวมหลังทำทันทีเท่านั้นครับ เนื่องจากแพทย์จะมีการเติมไขมันเผื่อการยุบหรือดูดซึมกลับ นอกจากนั้นถือว่าเป็นสารเติมเต็มที่มีความเสี่ยงแพ้น้อยมากจนถึงไม่มีเลยครับ เพราะไขมันที่เอามาใช้ก็เป็นเซลล์ไขมันจากตัวเราเอง ไม่ใช่สารสังเคราะห์ จึงทำให้การฉีดไขมันมีความปลอดภัยสูง ไม่เสี่ยงแพ้ และสามารถอยู่ได้ยาวนานถาวร

        หากพูดถึงผลข้างเคียง ก็มักจะมาจากการดูดไขมันเสียส่วนใหญ่ครับ ยกตัวอย่างเช่น อาการปวดหลังดูดไขมัน หรือหากมีการดูดไขมันออกมาในปริมาณมาก ก็อาจจะทำให้มี Tumescent ตกค้างจึงจะมีน้ำไหลออกมาบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการดูดไขมัน ไม่ได้เป็นปัญหาที่อันตรายแต่อย่างใดครับ

ฉีดไขมันที่ Amara Liposuction Center เน้นผลลัพธ์ตรงตามความคาดหวังเท่านั้น


        การเติมไขมันกับเอมาร่า เราจะใช้เครื่องดูดไขมันพลังงานน้ำ Body-Jet ที่ใหม่ที่สุด เพื่อให้การดูดไขมันเจ็บน้อย และสามารถเลือกเซลล์ไขมันดีมาใช้ได้อย่างมีคุณภาพ เพราะโอกาสที่ไขมันจะติดดีหรือไม่มักขึ้นอยู่กับการคัดเซลล์ไขมันด้วย

        หากแพทย์เลือกเครื่องดูดไขมันชนิดอื่นที่ใช้พลังงานที่ให้ความร้อน ก็สามารถทำได้ครับ แต่เครื่องดูดไขมันชนิดนั้น ๆ มักจะมีไว้เพื่อการดูดไขมันอย่างรวดเร็วมากกว่า และความร้อนก็สามารถทำให้ไขมันสลายตัวหรือเซลล์ตาย นำมาเติมได้แต่ก็จะได้แค่ไขมันที่ตายแล้ว ซึ่งร่างกายจะดูดซึมกลับเข้าไปและกำจัดออกเอง ให้ผลเหมือนการไม่ได้เติมอะไรเลยครับ

        ทั้งนี้ การคัดกรองไขมันเองก็ไม่ควรมองข้าม เอมาร่าคัดแยกไขมันด้วยเครื่องคัดกรอง เพื่อให้ได้เซลล์ไขมันแบบพร้อมฉีดล้วน ๆ โดยไม่มีน้ำเลือดหรือน้ำ Tumescent ผสม ทำให้แพทย์สามารถกำหนดปริมาณการฉีดไขมันแต่ละพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเผื่อน้ำเลือดหรือ Tumescent จะถูกดูดซึม


        Amara Liposuction Center เป็นศูนย์ดูดไขมัน-เติมไขมันเฉพาะทางที่กว่า 95% ของผู้เข้ารับบริการเป็นเคสดูดไขมัน-เติมไขมันทั้งหมด ทำให้แพทย์ผ่านการฉีดไขมันมาหลากหลายเคส ไม่ว่าจะเป็นคนไขมันน้อยหรือไขมันเยอะ รวมไปถึงประสบการณ์การดูดไขมันนับพันเคส ไม่มีการดูดไขมันแบบผ่าน ๆ จนผิวเป็นหลุมเป็นบ่อแน่นอนครับ

        หากใครยังไม่ทราบว่าจะต้องดูแลตัวเองอย่างไร หรือมีความกังวลว่าถ้าฉีดไขมันไปแล้วมีปัญหา เรามีทีมบริการและผู้ให้คำปรึกษาดูดไขมัน-เติมไขมันที่คอยให้แนะนำตลอดเวลา พร้อมด้วยบริการ After Care หลังดูดไขมันที่เน้นคุณภาพในการดูแลตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เอมาร่า…ไม่มีวันทิ้งลูกค้าครับ

รีวิว ฉีดไขมันจาก Amara Liposuction Center







FAQs

A : หลังฉีดไขมันจะบวมอยู่ราว ๆ 3-7 วันครับ ซึ่งระหว่างนี้ก็จะค่อย ๆ ยุบบวมลงเรื่อย ๆ และเริ่มเข้าที่ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 หรือ 1 เดือนขึ้นไป

A : จริง ๆ แล้วไขมันที่เราฉีดสามารถอยู่ได้นานสูงสุดคือ ถาวรครับ เพราะมันเป็นไขมันจริง ๆ ที่ติดอยู่กับเซลล์บริเวณนั้น และจะสลายตัวตามอายุของเรา

A : สามารถลดได้ครับ แต่หมอไม่แนะนำให้ลดน้ำหนักเยอะ ๆ ในเวลาอันสั้น เพราะอาจจะทำให้ไขมันที่เติมไปลดลงได้ (เหมือนที่สัดส่วนเราลดลง) หากค่อย ๆ ลดก็อาจจะทำให้เหลือเซลล์ไขมันอยู่บ้าง

A : อาจเป็นเพราะแพทย์ไม่เชี่ยวชาญมากพอ ทำให้ฉีดไขมันกระจุกแน่นกันเกินไปจนเลือดมาเลี้ยงเซลล์ไขมันไม่ได้จนเป็นก้อน หรืออีกกรณีคือฉีดไขมันตื้นเกินไปก็ทำให้เป็นก้อนได้

A : หากเลือกฉีดไขมันที่มีการคัดกรองไขมันดีก็เสี่ยงน้อยมาก ๆ ครับ ซีสต์อาจเกิดขึ้นได้จากการที่เราฉีดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วเข้าไปจนจับตัวเป็นก้อนแข็ง คนที่ฉีดไขมันที่ไม่ได้คุณภาพจึงมีโอกาสเสี่ยงเป็นซีสต์สูงกว่าปกติ

A : หมอไม่แนะนำอย่างยิ่งครับ เพราะการนวดหน้าหลังฉีดไขมัน โดยที่ยังไม่เข้าที่ สามารถทำให้เกิดความเจ็บปวด การอักเสบ ทำให้เซลล์ไขมันกระจุกรวมกันจนผิดรูป หรือทำให้ไขมันตายและไม่เห็นผลได้ด้วยครับ

A : โดยเฉลี่ยแล้วไขมันที่เติมไปจะสลายสูงสุด 30% เท่านั้นครับ แพทย์จึงจะมีการเติมไขมันในปริมาณที่เยอะกว่าที่กำหนด เมื่อสลายไปส่วนหนึ่งก็จะเข้าที่สวย ทั้งนี้ หากเติมเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพก็จะช่วยให้สลายน้อยลง

A : ปกติแล้วจะไม่รู้สึกเจ็บครับ เพราะแพทย์จะต้องให้ยาชาหรือ Tumescent กับผู้เข้ารับบริการก่อน ยาชานี้จะระงับความรู้สึกบริเวณนั้น ๆ ของเรา ระหว่างฉีดไขมันจึงไม่รู้สึกเจ็บครับ

สรุป


          การฉีดไขมัน หรือเติมไขมัน เป็นการเติมเต็มจุดบกพร่องในร่างกายแบบที่ไม่ต้องพึ่งสิ่งแปลกปลอม มีความปลอดภัย เนื่องจากเป็นเซลล์ไขมันของคนไข้เอง และที่สำคัญที่ทำให้หลายคนชื่นชอบคือ ความสวยที่ได้ถึง 2 ต่อ ทั้งการดูดไขมัน กำจัดไขมันส่วนเกินที่ไม่ต้องการ เพื่อลดสัดส่วน ปรับรูปร่างให้สวยเป๊ะ และแก้ไขจุดบกพร่อง ด้วยการเติมไขมัน เรียกได้ว่า ทำทีเดียวสวยคุ้ม ได้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติ แต่ทั้งนี้ แนะนำให้เลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และสถานที่ที่น่าเชื่อถือได้มาตรฐาน มีเครื่องมือและเทคโนโลยีครบครัน มีคุณภาพสูง ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่กับเราไปนาน ๆ และมีความปลอดภัยสูงสุด

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

KOL Trainer
แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!