ดูดไขมันราคาเท่าไหร่? ดูดไขมันแต่ละตำแหน่งกี่บาท เลือกแบบไหนให้คุ้ม

ดูดไขมันราคาเท่าไหร่?

      Update ราคาดูดไขมันปี 2024 ปัจจุบันมีคลินิกมากมาย ซึ่งราคาของแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันไป ตั้งแต่ไม่กี่พัน ไปจนถึงหลักหมื่น หลักแสน แต่ใคร ๆ ก็มักจะชอบของถูกใช่มั้ย? แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าที่ไหนราคาถูกและดี? วันนี้หมอไอซ์ AMARA จะพามาไขข้อข้องใจว่าราคาดูดไขมันขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง? ราคายิ่งแพงแสดงว่ายิ่งดีจริงไหม? และทำไมบางที่ถึงราคาถูกจัง

เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจ ได้ที่นี่เลยค่ะ

ดูดไขมันราคาเท่าไหร่? แพงจริงไหม! ต้องเตรียมงบเท่าไหร่?

ดูดไขมันราคา ที่ AMARA      ดูดไขมันราคาที่ใคร ๆ ก็มักบอกว่าแพง ต้องใช้เงินเยอะ! จนหลายคนไม่กล้าตัดสินใจมาดูดไขมัน วันนี้หมอขอแปะรายการดูดไขมันราคาที่ AMARA ให้ดูกันชัด ๆ ว่าจริง ๆ แล้ว มันราคาแพงอย่างที่ทุกคนคิดหรือไม่ ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่ถึงมาทำได้

ราคาดูดไขมันหน้าท้องเท่าไหร่?


      ดูดไขมันหน้าท้อง ราคาเริ่มต้นเพียง 25,000 บาท สำหรับเคสที่อยากดูดไขมันหน้าท้องทิ้ง ด้วยเครื่อง Ultra Z หรือ Vaser Smooth 2.2  และเริ่มต้นเพียง 39,900 บาท สำหรับเคสที่ต้องการดูดไขมันพลังน้ำ อย่างอ่อนโยน (เจ็บน้อย บวมช้ำน้อย ไม่ต้องพักฟื้น) และต้องการเอาไขมันไปเติมเต็มส่วนอื่นต่อ

      AMARA เรามีการคิดราคาดูดไขมันหน้าท้องและเอวเอส แบบเหมาบริเวณอย่างชัดเจน ไม่ได้นับเป็นจุดเล็ก ๆ จากแผลดูดไขมัน หรือนับแบบฝ่ามือ การนับตำแหน่งที่ Amara Clinic จะเป็นดูดไขมันราคาเหมาทั้งสัดส่วนไปเลย เช่น

  • หน้าท้องบน + หน้าท้องล่าง = 1 ตำแหน่ง
  • เอวเอส (หน้าหลัง) + ปีกหลัง = 1 ตำแหน่ง

      ดังนั้น หากต้องการให้หน้าท้องดูสวยทุกองศา ทั้งแบนราบลงและมีเอวเอส เพิ่มส่วนเว้าส่วนโค้งของรูปร่าง ก็ดูดหน้าท้องเพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้น ในราคาที่ตรงปกชัดเจน ขึ้นอยู่กับไซซ์ของคนไข้แต่ละคน และเครื่องดูดไขมันที่เลือกใช้นั่นเอง (ดูรีวิวเพิ่มเติม : รีวิวดูดไขมันหน้าท้อง)

ดูดไขมันต้นแขนราคาเท่าไหร่?


      ราคาดูดไขมันต้นแขน เริ่มต้นเพียง 25,000 บาท สำหรับเคสที่ดูดด้วยเครื่องพลังความร้อน  และเริ่มต้นที่ 39,900 บาท สำหรับเคสที่ต้องการดูดไขมันอย่างอ่อนโยน ด้วยเครื่อง body-jet

      ดูดไขมันต้นแขนที่ AMARA แพทย์จะดูดตามความเหมาะสม นับตำแหน่งดูดเป็นตำแหน่งเดียว ไม่มีแบ่ง รวมหมดแล้วรอบทั้งแขน ทั้งการดูดต้นแขนด้านหน้า, ต้นแขนด้านหลัง, ต้นแขนท้องแขน และรวมไปถึงหัวไหล่ ในเคสที่มีไขมันสะสมรอบหัวไหล่ ส่วนบางเคสที่มีไขมันสะสมบริเวณนมน้อย แพทย์อาจจะพิจารณาดูดไขมันนมน้อยเพิ่ม

      ทั้งนี้ ต้องเข้ามาให้แพทย์ประเมินให้ก่อนว่า สามารถดูดไขมันต้นแขนได้หรือไม่ เพราะในบางเคสอาจจะมีกล้ามเนื้อเยอะกว่าไขมัน และมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยก็เป็นได้ (ดูรีวิวเพิ่มเติม : รีวิวดูดไขมันต้นแขน)

ดูดไขมันต้นขา ราคาเท่าไหร่?


       ดูดไขมันขาด้านใน ด้านนอก และหน้าขา ราคา 25,000 บาท สำหรับเคสที่ต้องการดูดไขมันต้นขาทิ้ง และเริ่มต้นตำแหน่งละ 39,900 บาท สำหรับเคสที่ต้องการนำไขมันไปเติมเต็มต่อ ด้วยการใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet (ไขมันบริเวณต้นขา เป็นส่วนที่นิยมนำไปเติมไขมันมากที่สุด)

       โดยราคาดูดไขมันต้นขาจะแบ่งเป็นสองตำแหน่งดังนี้ การดูดไขมันต้นขาด้านนอก (เหมารวมการดูดไขมันต้นขาด้านนอก + ดูดไขมันต้นขาด้านหลัง และดูดไขมันสะโพก กับดูดไขมันก้นบางส่วน) และการดูดไขมันต้นขาด้านใน (เหมารวมการดูดไขมันต้นขาด้านใน + และดูดไขมันหน้าขาด้านหน้าด้วย) ส่วนการดูดไขมันตำแหน่งอื่น ๆ เช่น ดูดไขมันน่อง, ดูดไขมันหัวเข่า และดูดไขมันข้อเท้า ก็สามารถปรึษาแพทย์เพื่อลดสัดส่วนได้  (ดูรีวิวเพิ่มเติม : รีวิวดูดไขมันต้นขา)

ดูดเหนียง ราคาเท่าไหร่?


      ดูดไขมันเหนียง ราคาเริ่มต้น 19,900 สำหรับเคสที่ดูดไขมันเหนียงด้วยเครื่อง ACCUtite ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีเหนียงสะสมเยอะ ไม่มีปัญหาผิวย้วยรุนแรง และต้องการลดระยะเวลาในการพักฟื้น แต่สำหรับเคสที่มีปัญหาเหนียงเยอะมากและผิวย้วยรุนแรงด้วย หมอจะแนะนำให้ทำ J-Plasma ควบคู่ไปด้วยเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ (ดูรีวิวเพิ่มเติม : รีวิวดูดไขมันเหนียง)

ดูดไขมันซิกแพคราคาเท่าไหร่?


      ทำซิกแพคหรือดูดไขมันซิกแพค ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 10,000 บาท สามารถสร้างกล้ามเนื้อที่ดูเสมือนจริงได้ด้วยเทคนิค Advanced LipoSculpt 4D ช่วยสร้างระนาบหน้าท้องที่ดูเป็นธรรมชาติ แข็งแรง เหมาะกับคนที่ออกกำลังกายมานานแต่กล้ามหน้าท้องไม่ขึ้น (ดูรีวิวเพิ่มเติม : รีวิวดูดไขมันผู้ชาย)

ดูดไขมันร่อง 11 ราคาเท่าไหร่?


      ดูดไขมันร่อง 11 (Sexy line) ราคเริ่มต้นอยู่ที่ 10,000 บาท ซึ่งการทำการกล้ามหน้าท้องให้เป็นร่อง 11 จะมีการดูดไขมันหน้าท้องร่วมด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมามีความเฟิร์ม กระชับ และลีนเสมือนเป็นกล้ามเนื้อที่ผ่านการออกกำลังกายมาหลายปี (ดูรีวิวเพิ่มเติม : รีวิวดูดไขมันร่อง 11)

ราคาค่าวางยาสลบ/ยาชา ดูดไขมัน


       นอกจากราคาตำแหน่งดูดไขมันที่คุณต้องเตรียบงบไว้ให้พร้อมแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายสำหรับการวางยาชา/ยาสลบที่คุณจะต้องเตรียมเพิ่ม โดยราคาค่าวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์จะอยู่ที่ 25,000 ส่วนดูดแบบยาชาจะไม่มีการเก็บค่าบริการเพิ่มเติม แม้จะต้องจ่ายค่าหมอดมยาเพิ่มแต่ก็คุ้มกับความปลอดภัยที่จะได้รับและลดความเจ็บระหว่างดูดไขมันได้ด้วยครัล

ดูดไขมันราคาเท่าไหร่? อัปเดต 2024

ราคาดูดไขมันแต่ละสัดส่วน (Update 13/03/2024)

ดูดไขมันหน้าท้อง ราคา

25,000 – 39,900

ดูดไขมันเอวเอส ราคา

25,000 – 39,900

ดูดไขมันต้นแขน ราคา

25,000 – 39,900

ดูดไขมันนมน้อย ปีกเสื้อใน

25,000 – 39,900

ดูดไขมันหน้าอก ราคา

25,000 – 39,900

ดูดไขมันต้นขา ราคา

25,000 – 39,900

ดูดไขต้นมันขาด้านใน-ด้านนอก ราคา

25,000 – 39,900

ดูดไขมันน่องขา ราคา

25,000 – 39,900

ดูดไขมันหัวเข่า

25,000 – 39,900

ดูดไขมันข้อเท้า

25,000 – 39,900

ดูดไขมันผู้ชาย ราคา

25,000 – 39,900

ดูดไขมัน Sexy line / ดูดไขมันร่อง 11 

10,000

ดูดไขมัน Six Pack

10,000

ดูดไขมันทั้งตัว ราคา

เริ่มต้น 25,000 +

ดูดเหนียง / ดูดไขมันเหนียง ราคา

19,900 – 39,900

      การดูดไขมันที่เอมาร่า เรานับแบบเหมาตำแหน่ง ทำให้คนไข้ได้ดูดครบทุกจุดในสัดส่วนที่ต้องการ แต่จ่ายแค่ในราคา 1 ตำแหน่งเท่านั้น (ซึ่งแตกต่างจากที่อื่น ๆ ที่มักนับราคาตามจุดเปิดแผล ที่ราคาเริ่มต้นแสนถูก แต่ปิดจบด้วยการจ่ายเงินเกินงบ) นอกจากนี้ทาง Amara เรายังมีบริการในเรื่อง After Care ที่ครบครัน พร้อมดูแลคนไข้ทุกท่านหลังการผ่าตัดอย่างมืออาชีพ

หมายเหตุ : ดูดไขมันราคาดังกล่าวเป็นราคาเริ่มต้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันไปตามปัญหาของแต่ละบุคคลและเครื่องมือที่ใช้

         หากท่านใดที่สนใจ แนะนำให้ลองเข้ามาประเมินกับแพทย์ดูก่อนได้นะคะ เนื่องจากแต่ละคนมีปัจจัยด้านร่างกายที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจตัวใหญ่ แต่มวลกล้ามเนื้อเยอะ มีไขมันน้อย หรือบางคนอาจตัวเล็ก แต่กลับมีไขมันส่วนเกินมาก

         นอกจากนี้ การเข้ามาประเมินกับแพทย์มีข้อดีคือ ช่วยให้เราได้เล่าความกังวล และให้แพทย์ช่วยประเมินแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้ ทั้งประเมินตำแหน่งที่จะทำการรักษา, เลือกเครื่องที่ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับความต้องการ, และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้ (เช่น ผิวย้วยหรือไม่, ระยะเวลาที่พักฟื้นได้, งบประมาณ ฯลฯ)

หมายเหตุ : สามารถสอบถามโปรโมชั่นดูดไขมันเพิ่มเติมแบบ Update ได้ที่ Promotion

ราคาดูดไขมัน คิดราคาแบบไหนบ้าง?


      การนับราคาดูดไขมันของแต่ละคลินิกไม่เหมือนกัน และมีการนับจุดดูดไขมันหลายรูปแบบมาก ทำให้บางที่มีราคาถูกเป็นพิเศษ เช่นราคาเริ่มต้นหลักพัน (ถูกมาก) ทำให้เราหลงเข้าไป และโดนเก็บเงินเพิ่มอีกมากมาย ซึ่งตัวอย่างการนับจุดดูดไขมันจะมีการคิดราคาทั้งแบบเหมา แบบนับฝ่ามือ และแบบนับจุด

ตัวอย่างการคิดราคาแบบนับจุดเปิดแผล 

เช่นราคาจุดละ 4,999 บาท เปิดแผล 5 จุด ราคาก็จะเป็น 4,999*5 = 24,995 บาท ทำให้เก็บไขมันส่วนเกินทั้วทั้งตำแหน่งได้ไม่ครบ กลายเป็นกระเปราะไขมันที่หลงเหลือไว้ในบางจุดของร่างกายได้ครับ 

ตัวอย่างการคิดราคาแบบนับฝ่ามือ

เช่น หมอจะเอาฝ่ามือมาเทียบว่า หน้าท้องของเรามีขนาดเท่ากี่ฝ่ามือ และก็จะคูณราคาเพิ่มขึ้นเท่านั้น (ราคาดูดไขมันหน้าท้องจึงไม่แน่นอน และบางคลินิกอาจจะมีการโกงราคาดูดไขมันหน้าท้องได้)

ตัวอย่างการคิดราคาแบบเหมาตำแหน่ง

การคิดราคาดูดไขมันแบบเหมาสัดส่วน จะคิดแบบเหมาทั้งตำแหน่ง เช่น ดูดไขมันหน้าท้องบน-ล่าง ถือเป็น 1 ตำแหน่งของการดูดไขมันแบบเหมา ไม่มีการคิดตามจำนวนแผลที่เปิด จึงทำให้คุณเก็บไขมันส่วนเกินและเหลาสัดส่วนได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ไม่เหลือกระเปราะไขมันที่ดูขัดตา

7 ปัจจัยที่ทำให้ดูดไขมันราคาแต่ละที่แตกต่างกัน


1. เครื่องดูดไขมัน

รวมเครื่องดูดไขมัน ทุกรุ่น 2024

      เครื่องดูดไขมันในปัจจุบัน มีให้เลือกหลากหลายเครื่อง ตั้งแต่การใช้แรงมือของแพทย์เอง, พลังงานน้ำ, พลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์, พลังงานกล และพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ เป็นต้น ซึ่งแต่ละเครื่องก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงผลข้างเคียง และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็จะแตกต่างกันด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

2. ความเชี่ยวชาญของแพทย์

แพทย์ที่จะดูดไขมัน ต้องเป็นแพทย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีประสบการณ์มาไม่น้อย และต้องรู้ว่าในแต่ละเคส ควรดูดจุดไหนบ้างเหลาหุ่นอย่างไร เพื่อให้รูปร่างออกมาดี สัดส่วนสวย และคนไข้พึงพอใจที่สุด

นอกจากประสบการณ์แล้ว เทคนิคก็เป็นสิ่งที่ทำให้ราคาของแพทย์แต่ละคนไม่เท่ากันอีกด้วย เช่นการใช้เทคนิค Advanced LipoSculpt 4D, เทคนิคเกาหลี, เทคนิคซ่อนแผล เป็นต้น แถมแพทย์ที่ดูดไขมันเฉพาะทาง ย่อมมีความเชี่ยวชาญมากกว่าแพทย์ที่ทำหลาย ๆ อย่างควบคู่กันไป

3. ระบบภายในห้องผ่าตัด

ห้องผ่าตัด หรือห้องที่ใช้ในการดูดไขมัน ต้องเป็นห้อง Positive Pressure ที่ได้มาตรฐานและปลอดเชื้อ ตามหลักมาตรฐานสากล มีใบรับรองถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะมีเชื้อโรคหลุดลอดเข้าไป และเป็นอันตรายกับคนไข้ได้

ซึ่งห้องผ่าตัดที่เป็นมาตรฐานสากลนั้น มีอยู่ที่โรงพยาบาลชั้นนำก็จริง แต่ไม่ได้มีกันทุกที่ ดังนั้นเราควรศึกษาและพิจารณาว่า ห้องผ่าตัดของคลินิกดูดไขมันต้นขา ที่เราสนใจนั้นได้มาตรฐานหรือไม่?

สิ่งที่ควรมีในห้องผ่าตัดคือ ระบบควบคุมอากาศ , ระบบความคุมความชื้น, ระบบควบคุมความดัน, ระบบช่วยชีวิตฉุกเฉิน Pipeline, ระบบไฟฟ้าสำรอง, เครื่องวางยาสลบ, เครื่องมือ-อุปกรณ์ทุกชนิดต้องผ่านการฆ่าเชื้อ และมีเครื่องมือช่วยชีวิตพื้นฐาน เป็นต้น นอกจากนี้ควรสอบถามด้วยว่า ประตู ผนัง และพื้นของห้องผ่าตัด สามารถป้องกันไฟฟ้าสถิตได้หรือไม่ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ยิ่งมีมาตรฐานสูงเท่าไหร่ ราคาก็จะสูงมากขึ้นเท่านั้น

ห้องผ่าตัดใหญ่ VS ห้องผ่าตัดทั่วไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • ห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน ต้องมีอะไร้บาง? หาคำตอบได้ที่บทความ : ห้องผ่าตัด

4. บริการ After Care หลังดูดไขมัน

ดูดไขมัน ราคาพร้อม after care

หลังดูดไขมันยังต้องมีการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง แต่บางอย่างก็ไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ เช่นคนที่ดูดไขมันหลาย ๆ ตำแหน่ง การทำแผลเองอาจจะยุ่งยากและลำบากมาก เลยต้องไปทำแผลที่คลินิก

อีกทั้งยังมีในเรื่องของชุดกระชับหลังดูดไขมัน, การนวดกระชับผิว RF, การนวดลดก้อนแข็งใต้ผิว, การตัดไหม, การฉายแสงลดบวม, การเลเซอร์รอยดำ รอยแดงของแผล, ค่ายาหลังผ่าตัด และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ต้องทำที่คลินิก ซึ่งทุกอย่างต้องมีค่าใช้จ่ายแน่นอน แต่บางแห่งอาจรวมไว้ในแพ็กเกจแล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่มจบในครั้งเดียว

ดังนั้นควรสอบถามให้ดีว่า ราคาดูดไขมันที่ตกลงไว้รวมอะไรบ้าง? ต้องจ่ายอะไรเพิ่มบ้าง? เนื่องจากบางแห่งอาจมีราคาดูดไขมันที่ถูกแสนถูก แต่กลับมีค่าใช้จ่ายซ่อนเร้นที่แสนแพง จึงทำให้ในตอนแรกที่เราคิดว่าจะประหยัด ดันเสียเงินมากกว่าเดิมก็เป็นได้

และในส่วนของห้องพักฟื้นนั้น จะต้องมีเครื่องเฝ้าติดตามสัญญาณชีพ, เครื่องมือช่วยชีวิต, ผ้าห่มลมร้อน นอนอุ่น ๆ และที่สำคัญคือต้องมีพยาบาลเฝ้าด้วยเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • หลังดูดไขมันแล้ว ที่ Amara Clinic เรามีการดูแลอย่างไรบ้าง? ตามไปดูเพิ่มเติมได้ที่ : โปรแกรม After Care

5. วางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์

ใครที่ต้องการดูดหลายตำแหน่ง แต่กังวลว่าทนไม่ไหว เพราะกลัวเจ็บมาก แนะนำให้วางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ เพื่อให้คนไข้ไม่ต้องกังวลระหว่างผ่าตัด ทำให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น

แน่นอนว่าการวางยาสลบหรือดมยาสลบ จะต้องทำโดยแพทย์วิสัญญีเท่านั้น จึงจะปลอดภัยที่สุด คลินิกดูดไขมันบางแห่งอาจมีการแจ้งว่าใช้วิสัญญีแพทย์ แต่จริง ๆ แล้วใช้เป็นพยาบาล ผู้ช่วย หรือแพทย์เป็นคนวางยาสลบแทนก็เป็นได้

จึงทำให้ค่าวางยาสลบที่เพิ่มขึ้นมาถูกแสนถูก จนทำให้ใครหลาย ๆ คนตกหลุมพรางที่นี่แหละ! แอดมินต้องขอบอกว่า การผ่าตัดทุกชนิดมีความเสี่ยง อย่าเพิ่งตกลงทำง่าย ๆ หากยังไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนว่า คนที่วางยาสลบให้เราเป็นวิสัญญีแพทย์จริงหรือไม่

การวางยาสลบ
ต้องทำโดยวิสัญญีแพทย์เท่านั้น !

วิสัญญีแพทย์

6. เคสรีวิวจริงของคลินิก

ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพรีวิวของคนไข้จริง เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจดูดไขมันที่ไหนสักแห่ง เพราะภาพรีวิวจะช่วยให้เราเห็นว่าสัดส่วนมีความเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด อีกทั้งยังช่วยบ่งบอกประสบการณ์ของแพทย์ได้เป็นอย่างดี

ยิ่งคลินิกดูดไขมันที่มีราคาสูง ย่อมบ่งบอกว่าแพทย์มีประสบการณ์เยอะ การันตีในผลงาน ทำออกมาแล้วเห็นผล และออกมาดีแน่นอน ส่วนคลินิกที่มีราคาที่ค่อนข้างถูก มักเป็นคลินิกที่เปิดใหม่ หรือเป็นคลินิกที่เพิ่งมีการดูดไขมัน เรียกได้ว่าคนไข้กลุ่มแรก ๆ นั้นคือเคสทดลองฝีมือแพทย์ ช่วยเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้แพทย์
 
ด้วยราคาดูดไขมันที่ถูกกว่ามาตรฐาน จึงอาจทำให้เกิดความเสี่ยงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลลัพธ์, เรื่องของแผล, เรื่องของการติดเชื้อ และรวมไปถึงเรื่องการดูแลหลังทำอีกด้วย

7. การนับพื้นที่ดูดไขมัน

ตำแหน่งดูดไขมัน เติมไขมัน

ในเรื่องของการนับตำแหน่งดูดไขมัน ในแต่ละคลินิกก็จะมีการนับที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการนับจุดเปิดแผล, การนับด้วยฝ่ามือ หรือการนับแบบเหมาพื้นที่ ซึ่งการนับพื้นที่แต่ละแบบก็อาจจะทำให้เกิดการสับสนและเข้าใจผิดได้ อย่างการนับจุด ก็จะมีทั้งจุดที่แทนบริเวณ เช่นหน้าท้อง, ต้นขา, ต้นแขน และจุดที่เปิดแผลดูดไขมัน

ส่วนใหญ่คลินิกที่แจ้งว่าราคาเริ่มต้นจุดละ 2,000-3,000 บาท มักจะเป็นการนับจุดเปิดแผลซะส่วนใหญ่ หรือการนับแบบเหมาพื้นที่ ก็ต้องสอบถามให้แน่ชัดด้วยว่านับอย่างไร อย่างหน้าท้อง นับเป็นหน้าท้องบนกับหน้าท้องล่างรวมกันเป็น 1 พื้นที่ หรือหน้าท้องบน 1 พื้นที่ หน้าท้องล่างอีก 1 พื้นที่ ส่วนต้นขาก็อาจจะนับเป็นการดูดต้นขาด้านใน 1 พื้นที่ หรือต้นขานอก 1 พื้นที่ เป็นต้น

เลือกดูดไขมันที่ไหนดี คุ้มค่าที่สุด?


       ดูดไขมันที่ไหนดี ได้ทั้งความคุ้มค่า ผลลัพธ์ที่สวยงาม และความปลอดภัย แน่นอนว่าที่ AMARA เราเป็นศูนย์ดูดไขมันที่มีมาตรฐานในระดับสากล ทุกอย่างที่ AMARA คัดสรรมาให้คุณล้วนเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดไขมัน ห้องผ่าตัดระบบ Positive Pressure ที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขและ AACI หากคุณยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกที่ไหนอ่านเพิ่มได้ที่นี่…ดูดไขมันที่ไหนดี?

 ทำไมต้องดูดไขมัน ที่ AMARA Liposuction Center


       AMARA Liposuction Center ศูนย์ดูดไขมันอันดับ 1 ทั้งในไทยและเอเชีย มากกว่า 10,000 เคสที่มั่นใจเลือกดูดไขมันที่เอมาร่า ไม่ว่าจะเพศไหน หุ่นไซซ์อะไร หรืออายุเท่าไหร่ ก็เปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ดียิ่งขึ้นได้ที่นี่ ด้วยมาตรฐานการให้บริการระดับ World Class ครบครันด้วยเครื่องดูดไขมันที่เยอะที่สุดในไทย พร้อมดูแลทุกเคสโดยแพทย์ผู้สอนดูดไขมันที่มากด้วยประสบการณ์และรางวัลการันตีในระดับนานาชาติ

รีวิวดูดไขมันเหมาสัดส่วน ดูดไขมันเฉพาะจุด จากเคสจริง!

สรุป ดูดไขมันยิ่งแพง แสดงว่ายิ่งดี?

          ตอบได้เลยว่าไม่จริงเสมอไป เพราะอย่างที่กล่าวไปว่าเราไม่ควรดูที่ราคาเป็นหลัก แต่ราคาที่สูงกว่ามักจะตามมาด้วยต้นทุนที่สูงกว่าและหลาย ๆ อย่างที่ดีกว่า เราจึงต้องทำการบ้านกับตัวเองด้วย เพื่อไม่ให้พลาดไปเลือกคลินิกดูดไขมันที่ต่ำกว่ามาตรฐาน เริ่มจากการศึกษาเรื่องการดูดไขมัน, ดูรีวิวจากลูกค้าจริง, การบริการ, เครื่องมือ-อุปกรณ์, ความทันสมัย รวมไปถึงตัวแพทย์เองด้วย ว่าให้คำแนะนำที่ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ แนะนำดีและใส่ใจเรารึเปล่า หรือรีบให้คำปรึกษาแบบเร็ว ๆ และไปรับเคสอื่นต่อเป็นต้น อย่างไรก็ตามคลินิกดูดไขมันที่ถูกและดีอาจจะมีอยู่จริงก็เป็นได้

 #อันดับ 1 Amara Liposuction Center
ศูนย์ดูดไขมัน เติมไขมัน กระชับสัดส่วน เฉพาะทาง 

ดูดไขมัน = หมอไอซ์

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่

สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB

ติดต่อเบอร์โทร : 

062-789-1999

⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)

KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!

ฟรี! ของแถมเพียบกว่า 30 รายการ

 


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย