กระชับผิวด้วย J Plasma หรือ BodyTite เลือกแบบไหนดี?

J Plasma

มองหาตัวช่วยในการกระชับผิว กระชับสัดส่วน ปรับผิวให้เต่งตึงอยู่ใช่ไหมครับ? หมอเชื่อว่าหลายคนลังเล เพราะเห็นว่ามีตัวช่วยในการยกกระชับผิว พร้อมกับการดูดไขมันตั้ง 2 ตัวเลือก ทั้งเครื่องกระชับผิวจากอเมริกาอย่าง J Plasma และเครื่องดูดไขมันกระชับผิวไปในตัว ถ้าอยากรู้ว่าทำเครื่องไหนแล้วเห็นผลมากกว่ากัน ทำแบบไหนแล้วปัง ต้องอ่านบทความนี้เลยครับ – โดยหมอไอซ์ Amara Clinic

“คุณหมอคะ ดูดไขมันแล้วผิวกระชับเลยไหมคะ? เคยเห็นเค้าเขียนโฆษณาว่าดูดไขมันอย่างเดียว ผิวกระชับขึ้นมาทันที จริงไหมคะ?” ตัวอย่างคำถามของคนไข้หมอ ที่เคยถามกับหมอตอนเข้ามาปรึกษาดูดไขมัน เกี่ยวกับเรื่องการดูดไขมันกระชับผิวครับ ซึ่งจริง ๆ มีหลายคนเลยนะครับที่สอบถามเข้ามา เลยทำให้หมอตัดสินใจเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพื่ออธิบายว่าการดูดไขมัน ช่วยกระชับผิวได้จริงไหม? กระชับมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง? รวมไปถึงไขข้อข้องใจว่า… ดูดไขมันแล้วผิวกระชับขึ้นทุกเคสไหม?

เฉลย! การดูดไขมันด้วยเครื่องพลังงานความร้อน สามารถทำให้ผิวหนังของเรากระชับขึ้นได้ จริง แต่ได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น เมื่อเทียบกับการใช้เครื่องกระชับผิวย้วย ยกกระชับสัดส่วนโดยตรง และขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยของฝั่งตัวคนไข้เองด้วยครับ อาทิ ปริมาณของไขมันที่สามารถดูดออกมาได้, สภาพผิวของคนไข้ก่อนดูดไขมัน (มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยอยู่แล้วหรือไม่ / ผิวย้วยมากน้อยแค่ไหน) และขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ใช้ในการรักษาด้วยครับ ดังนั้น หลังดูดไขมันผิวจะกระชับมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับสิ่งเหล่านี้เป็นหลักครับ (อ่านเพิ่มเติม : ดูดไขมันดีไหม?)

คุณสมบัติของเครื่องพลังงานความร้อน อาทิ เครื่องดูดไขมันเวเซอร์ (Vaser Smooth 2.2), เครื่องดูดไขมันพลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ หรือเครื่องดูดไขมัน Ultra Z นั้น จะมีการผลิตพลังงานความร้อนจากภายใน เพื่อใช้ในการสลายไขมัน จึงมีส่วนในการช่วยกระตุ้นคอลลาเจนภายใต้ผิวในช่วงแรก จึงส่งผลทำให้ผิวรู้สึกเต่งตึงขึ้นได้จริง ๆ ครับ รวมถึงเครื่องดูดไขมันกระชับผิว BodyTite ที่ใช้พลังคลื่นวิทยุ กระชับผิวให้เต่งตึ้งขึ้นได้ในระดับหนึ่ง

กระชับผิวหลังดูดไขมัน สำคัญอย่างไร?

การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นวิธีที่จะช่วยลดไขมันใต้ชั้นผิวหนังของเรา ออกมาได้อย่างตรงจุดและรวดเร็วที่สุดเลยครับ แต่เพราะเป็นการนำไขมันออกมาเร็ว ๆ นี่แหละครับ เลยทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา นั่นก็คือการเกิดช่องว่างระหว่างชั้นผิวหนังและกล้ามเนื้อ (จากปกติชั้นไขมันมีไขมันอยู่เต็มไปหมด ลองจินตนาการว่าเรายกไขมันทั้งก้อนออกมา ตรงนี้ก็โล่งเลยครับ) ส่งผลให้ชั้นผิวหนังไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยวแบบไม่ทันตั้งตัว เลยหล่นลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งเราเรียกสิ่งนี้ว่าความย้วยของผิวหนังนั่นเอง (อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : สาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย)

ดูดไขมันน้อย = มีโอกาสผิวย้วยน้อย
ดูดไขมันมาก = มีโอกาสที่ผิวจะย้วย
ดูดไขมันน้อย + ผิวย้วยอยู่แล้ว = ผิวย้วยไม่ต่างจากเดิม
ดูดไขมันมาก + ผิวย้วยอยู่แล้ว = เสี่ยงผิวย้วยมากขึ้น

สำหรับเคสที่ไม่ได้เครียดเรื่องผิวหย่อนคล้อย และไม่ได้มีความเสี่ยงที่ผิวจะย้วยหลังดูดไขมัน ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องทำกระชับเลยก็ได้ครับ แต่ถ้าใครหมอประเมินแล้วว่าการดูดไขมันอย่างเดียว เสี่ยงที่ผิวจะย้วยนะ และเข้าเกณฑ์ว่าควรทำกระชับ เพื่อให้ได้หุ่นที่เป๊ะขึ้น อันนี้ก็ควรทำกระชับผิวเพิ่มเติมนะครับ ส่วนเครื่องมือในการทำกระชับ สรุปว่าจะเป็นเครื่องดูดไขมันกระชับผิว หรือเครื่องยกกระชับสัดส่วนโดยตรง ก็จะขึ้นอยู่กับว่าคนไข้เข้าไปใช้บริการที่คลินิกใดครับ

เครื่องดูดไขมันกระชับผิว คืออะไร?

เครื่องดูดไขมันพร้อมกระชับผิวได้ในหนึ่งเดียว เป็นการสลายไขมันและดูดออกมา โดยใช้ท่อดูดไขมันธรรมดา (Suction Assisted Liposuction) ร่วมกับการนำพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF : Radio frequency) ชนิด Bipolar มาช่วยในการกระชับผิวหนังส่วนบนขณะดูดไขมัน ซึ่งหลายคนรู้จักกันดีในชื่อของ BodyTite ครับ นับว่าเป็นเครื่องสลายไขมันกระชับผิวหย่อนคล้อยในยุคแรก ๆ ของวงการดูดไขมันก็ว่าได้ครับ

BodyTite

BodyTite

FaceTite

BodyTite

ACCUtite

ในปัจจุบัน เครื่อง BodyTite รุ่นเก่าได้ถูกพัฒนาฟังก์ชั่นต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรักษามากขึ้น จนกลายมาเป็นรุ่น BodyTite Pro ซึ่งมาพร้อมกับหัวอุปกรณ์ (Handpiece) 3 แบบด้วยกัน ทั้ง BodyTite, FaceTite และ ACCUtite โดยแต่ละชนิดของหัวอุปกรณ์จะถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในตำแหน่งที่ต้องการรักษาแตกต่างกัน และสามารถใช้ได้กับใบหน้าและลำตัว โดยเฉพาะในบริเวณที่เล็ก ๆ หรือบริเวณที่เข้าถึงได้ยาก เช่น ใต้ตา, เหนียง, ร่องแก้ม, ยกคิ้ว, รักแร้, นมน้อย, มือ, ทำร่องกล้ามเนื้อหน้าท้อง, ต้นขาด้านใน หรือหัวเข่า เป็นต้น เหมาะกับเคสที่มีไขมันสะสมในปริมาณไม่มาก และมีผิวหนังหย่อยคล้อยในระดับไม่มากนัก โดยไม่ต้องต่อกับหัวท่อดูดไขมัน

BodyTite

สำหรับหลักการทำงานของเครื่องสลายไขมันพร้อมกระชับผิว เป็นการใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุแบบ Bipolar ที่ส่งพลังงาน RF วิ่งไปกลับระหว่างหัวด้านบนและล่าง ตัวเครื่องให้ความร้อนในการรักษาอยู่ที่ 40-60 องศา ซึ่งบริเวณใต้ผิวหนังจะมีความร้อนที่สูงกว่าบริเวณผิวหนังด้านบน ดังนั้น จึงสามารถสลายไขมันใต้ผิวหนังได้ ส่วนผิวหนังด้านบนก็จะถูกกระกระชับไปด้วยในตัวครับ

สำหรับในเคสที่มีปัญหาไขมันสะสมมาก ๆ และต้องการทำกระชับผิวด้วย BodyTite Pro ก็สามารถใช้เทคนิคดูดไขมันช่วยเสริมด้วยได้ครับ แต่ทั้งนี้ การทำกระชับผิวด้วยเครื่อง BodyTite Pro อาจมีข้อเสียหรือข้อจำกัดตรงที่ ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวย้วยมาก ๆ เช่น คุณแม่หลังคลอด, เคสที่ต้องดูดไขมันออกในปริมาณมาก ๆ หรือเคสที่มีปัญหาผิวหนังย้วยมาก ๆ อยู่ก่อนหน้าแล้ว ซึ่งหมออาจพิจารณาแนะนำให้ทำกระชับผิวด้วยเครื่อง J Plasma แทนครับ

ข้อดีของการใช้เครื่องดูดไขมันกระชับผิว

  • ลดไขมันส่วนเกิน พร้อมกระชับผิวไปในตัว
  • มีราคาถูกกว่าเครื่องกระชับผิวโดยตรง
  • มีความปลอดภัยมาก มีโอกาสผิวไหม้น้อย
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ในระยะแรก

ข้อเสียของการใช้เครื่องดูดไขมันกระชับผิว

  • ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับมาก ๆ

บทความเพิ่มเติม

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี

เครื่องยกกระชับผิว J PLASMA คืออะไร?

เครื่องยกกระชับผิวมีหลายแบบมากครับ แต่เครื่องที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือเครื่อง J Plasma (เจพลาสมา) นวัตกรรมใหม่ล่าสุกจาอเมริกา เพราะเป็นการกระชับผิวจากจุดต้นตอ ที่ทำให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อยเลยครับ เครื่องอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการกระชับจากภายนอก ทำให้ความร้อนไม่ลงลึกสู่ชั้นที่มีเส้นใยพยุงให้ผิวติดกัน (FSN : Fibroseptal Network) เลยเห็นผลน้อย และใช้เวลาในการทำหลายครั้งครับ ส่วนเครื่อง J Plasma นี้จะมีการเปิดแผล (ใช้แผลเดียวกับดูดไขมันได้) และยกกระชับจากภายในอย่างตรงจุดที่สุด (อ่านเพิ่มเติมเต็ม ๆ : J Plasma คืออะไร?)

โดย J Plasma จะมีการใช้พลังงาน RF ร่วมกับพลังงาน Helium Plasma สร้างพลังความร้อนที่สูงถึง 85°C ส่งไปยังเส้นใย FSN เพื่อให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อในทันที ผิวก็จะกระชับและลีนขึ้นในตอนนี้เลยครับ เห็นว่าพลังความร้อนสูงมาก แล้วมันจะไหม้ผิวไหม? ตอบได้เลยว่าไม่ไหม้ครับ เพราะหลังจากที่กระชับผิวแล้ว ท่อจะมีอุณหภูมิเย็นลงใน 0.040 วินาที (จาก 85°C เหลือ 41°C ) ไม่เกิดการเบิร์นที่ผิว หรือเนื้อเยื่อส่วนอื่น ไม่รู้สึกเจ็บ และช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวอย่างต่อเนื่อง ยาวนานไปจนถึง 6 เดือนเลยครับ เคสคนไข้หมอที่ทำ J Plasma ไป ไม่มีใครกลับมาทำซ้ำ เพราะผิวกลับมาย้วยเหมือนเดิมเลยครับ

รีวิว J Plasma

ข้อดีของการกระชับผิวด้วย J Plasma

  • ใช้แผลเดียวกับแผลดูดไขมัน ไม่ต้องเปิดแผลเพิ่ม
  • ทำ J Plasma แล้วผิวกระชับถาวร ไม่ต้องทำซ้ำ
  • ช่วยลดผลข้างเคียงของการดูดไขมันลงได้ดี
  • ช่วยลดระยะเวลาในการสวมชุดกระชับหลังดูดไขมัน
  • สัดส่วนเข้าที่เร็ว ผิวเฟิร์มแน่น ผิวกระชับ ผิวลีนมาก
  • ผิวจะกระชับขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่หลังทำ – 6 เดือน
  • ได้ผลลัพธ์ 80% ของการผ่าตัดหนังหน้าท้อง

ข้อเสียของการกระชับผิวด้วย J Plasma

  • ราคาสูงกว่าการกระชับผิว ด้วยเครื่องดูดไขมันพลังคลื่นวิทยุ
  • มีค่าใช้จ่ายแยกจากการดูดไขมัน (ราคาเครื่องสูงมาก จึงมีไม่กี่เครื่องในไทย)

ตัวจริงเรื่องยกกระชับผิว! รางวัล 2022 Global No.1 Renuvion J Plasma User

J PLASMA VS BODYTITE (เครื่องดูดไขมันกระชับผิว) เลือกอะไรดี?

ถ้าถามหมอว่าระหว่างเครื่องกระชับผิว J Plasma กับเครื่องดูดไขมันกระชับผิว หรือ BodyTite Pro จะเลือกอะไรดี? ถ้าเน้นความ Perfect ของผิวและรูปร่าง หรือมีปัญหาผิวหนังหย่อยคล้อยมาก ๆ หมอแนะนำตัว J Plasma ครับ แต่ถ้าใครที่มีงบไม่ถึง หรือไม่ได้มีปัญหาเรื่องผิวหย่อนคล้อยให้กังวล การใช้เครื่องดูดไขมันกระชับผิวก็เพียงพอแล้วครับ อย่างไรก็ตาม การเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินร่างกาย จะช่วยให้แพทย์ประเมินการรักษาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น, ทำให้เห็นว่าคนไข้แต่ละคนมีปัญหาด้านไหนที่ควรแก้ และจะต้องรักษาด้วยวิธีไหน จึงได้ผลลัพธ์ในแบบที่คนไข้คนนั้นต้องการ (วิธีการรักษานั้น สามารถยืดหยุ่นได้ครับ โดยยึดจากความต้องการของคนไข้ และความเหมาะสมตามการพิจารณาของแพทย์เป็นหลัก)

ยกตัวอย่างเคสและวิธีการรักษา

j plasma
j plasma

เคสที่ 1 : คุณ A

คุณ A เป็นคนตัวเล็ก มีปริมาณไขมันน้อย รูปร่างไม่ได้เป๊ะ มีพุงหมาน้อยยื่นออกมา ไม่ได้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยใด ๆ แต่มีปัญหาตรงที่ออกกำลังกายแล้วไม่เห็นผล เลยเข้ามาดูดไขมันหน้าท้องส่วนล่างออกไป เพื่อให้ดูเป๊ะมากขึ้น

เคสของคุณ A มีการดูดไขมันออกมาน้อย ทำให้ช่องว่างใต้ผิวไม่ได้เยอะ ประกอบกับออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว การดูดไขมันเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ทำให้ผิวหย่อนคล้อยมากขึ้น ผิวก็จะเป็นผิวที่มีความกระชับแบบปกติทั่วไป ไม่ได้ลีนมากครับ แต่ถ้าต้องการผิวที่เฟิร์มลีนมาก ๆ มีร่อง 11 สวย ๆ ต้องอาศัยเครื่องยกกระชับโดยตรงอย่าง J Plasma เสริมเข้าไปครับ

เคสที่ 2 : คุณ B

คุณ B เป็นคนตัวใหญ่ คุณแม่หลังคลอด ใส่เสื้อผ้าไซซ์ XL มีไขมันสะสมที่หน้าท้องปริมาณมาก >> ต้องอธิบายให้เข้าใจก่อนนะครับ ว่าเคสคุณแม่มักจะมีปัญหาผิวย้วยมากกว่าปกติ และยิ่งมีปริมาณไขมันที่เยอะ ย่อมทำให้เกิดช่องว่างใต้ผิวเยอะแน่นอน มีโอกาสที่ผิวจะย้วยได้มาก หากไม่ได้มีการยกกระชับผิวโดยตรง

เคสแบบนี้ต้องดูอีกทีครับว่าจะใช้ J Plasma ร่วมกับการดูดไขมัน หรือจะใช้วิธีการผ่าตัดหนังหน้าท้อง (ขึ้นอยู่กับความสะดวกของคนไข้) เนื่องจากในเคสลักษณะนี้ การใช้เครื่องดูดไขมันกระชับผิว ไม่ได้ทำให้ปัญหาผิวย้วยดีขึ้นครับ บางคลินิกที่ไม่มีเครื่องกระชับผิวโดยตรง จึงแนะนำให้ผ่าตัดหนังหน้าท้องแทน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด

เคสที่ 3 : คุณ C

คุณ C เป็นคนที่เคยมีน้ำหนักตัวมาก (อ้วนมาก ไขมันเยอะ) และมีการลดน้ำหนักลงมา ไม่ว่าจะเป็นการลดน้ำหนักแบบผิดวิธี หรือถูกวิธี ก็มีโอกาสผิวย้วยได้ทั้งนั้น จะรุนแรงมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับเคสไป เคสแบบคุณ C หมออาจจะต้องมาพิจารณารายคนว่ามีความรุนแรงแค่ไหน ประกอบกับคนไข้หวังผลลัพธ์อย่างไร หากผิวหย่อนคล้อยในระดับปานกลาง ยังสามารถกู้ผิวได้โดยไม่ต้องผ่าตัดหนังหน้าท้อง ก็จะแนะนำให้ทำ J Plasma ครับ แต่ถ้าเคสไหนที่รุนแรงมาก ๆ หมอก็จะบอกไปตรง ๆ ว่า J Plasma คงไม่ได้ผลนะ ควรตัดหนังหน้าท้องออกไปเลย

How to ดูดไขมันแล้วผิวกระชับ

การใช้เครื่องมือผ่าตัดที่เหมาะสม

กรณีแรกคือการใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยทำให้ผิวกระชับขึ้น ควบคู่ไปกับการการดูดไขมันนะครับ

  1. คือการใช้เครื่องดูดไขมันกระชับผิว (เครื่องดูดไขมันที่มีคลื่นวิทยุกระชับผิวส่วนบน) และ
  2. การใช้เครื่องยกกระชับสัดส่วนโดยตรง อย่างเครื่อง J Plasma ครับ ในกรณีนี้ จะต้องมีการตกลงกันก่อนเริ่มเคสผ่าตัด ว่าคนไข้ต้องการรักษาด้วยเครื่องมืออะไร

การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน

กรณีที่ดูดไขมันมาแล้ว อยากให้ผิวมีความกระชับเต่งตึง ไร้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรือผิวคลื่นต่าง ๆ คนไข้จะต้องมีการดูแลตัวเองหลังดูดไขมันอย่างถูกวิธีนะครับ อันนี้ไม่ใช่ตัวเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำเหมือนกรณีแรก แต่เป็นสิ่งที่ควรทำในทุก ๆ เคสเลยครับ

  1. การสวมชุดกระชับสัดส่วน ตามที่หมอแนะนำ (แนะนำใส่ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้เลยครับ)
  2. การนวดกระชับผิวหลังดูดไขมัน หรือนวด RF (แนะนำเครื่อง Venus Legacy ตัวใหม่ล่าสุดครับ)
  3. การนวดสลายก้อนแข็งใต้ผิว เพื่อให้ผิวกระชับเรียบเนียนขึ้น (แนะนำเครื่อง Thermatight ครับ)

สรุป

          สำหรับคนที่รู้ตัวว่าเป็นคนมีผิวหย่อนคล้อย ร่วมกับไขมันส่วนเกินอยู่ อยากปรับรูปร่างให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม หมอแนะนำให้เข้าไปพบแพทย์เพื่อประเมินการรักษาโดยตรงเลยนะครับ บางเคสอาจจะเหมาะกับการทำ J Plasma มากกว่า หรือบางเคสอาจจะเหมาะกับการใช้เครื่องดูดไขมันกระชับผิวมากกว่า ซึ่งทั้งสองวิธีนี้มีความเหมาะสมกับแต่ละเคสไม่เหมือนกันครับ ทั้งนี้ สำหรับคนที่อยากเข้ามาปรึกษาหมอที่ Amara Clinic สามารถเข้ามาปรึกษาได้ฟรี แล้วกลับไปติดสินใจก่อนได้ครับ

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

KOL Trainer
แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


    รีวิวยกกระชับผิวด้วย J Plasma

    J Plasma (เจพลาสมา) เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวที่ดีที่สุด จากอเมริกา ไม่ต้องเปิดแผลผ่าตัดใหญ่ สามารถใช้แผลเดียวกันกับการดูดไขมันได้เลย ช่วยยกกนะชับผิวที่ย้วย หรือหย่อนคล้อย ให้ตึงกระชับขึ้น เฟิร์มขึ้น เหมาะกับเคสที่มีปัญหาผิวย้วย, ออกกำลังกายมานาน แต่ไม่ลีน ไม่เฟิร์ม, เคสคุณแม่หลังคลอด และเคสที่ดูดไขมันปริมาณเยอะ เป็นต้น

              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย