ดูดไขมันอันตรายไหม? อันตรายมากน้อยแค่ไหน หาคำตอบเลย!

ใครที่สนใจในการดูดไขมัน หลาย ๆ คน อาจจะเคยได้ยินข่าวว่า ดูดไขมันอันตราย มีคนดูดไขมันแล้วเสียชีวิต บ้างก็ดูดไขมันแล้วติดเชื้อ หรือดูดไขมันแล้วความเสี่ยงเยอะมากใช่ไหมครับ ทำให้เกิดข้อสงสัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดูดไขมันอันตรายไหม? วันนี้หมอไอซ์ อาจารย์แพทย์สอนดูดไขมันพลังน้ำ แพทย์ประจำ Amara Clinic จะมาอธิบายให้อ่านกันครับ

ทำไมถึงบางคนคิดว่าดูดไขมันอันตราย?


ในสมัยก่อน เทคโนโลยีการดูดไขมันมีความล้าหลัง อาจยังไม่ได้ถูกพัฒนาอย่างในปัจจุบันนะครับ คลินิกดูดไขมันเถื่อน หมอเถื่อนก็เยอะ อีกทั้งจะใช้การวางยาสลบในการดูดไขมันเป็นหลัก ทำให้คนไข้เสี่ยงอยู่ในสภาวะอันตรายได้ง่ายกว่าในปัจจุบัน จึงทำให้การดูดไขมันอันตราย แล้วตอนนี้ การดูดไขมันอันตรายไหม? , อันตรายจากการดูดไขมันมีมากน้อยเพียงใด? , อันตรายจากการดูดไขมันมีอะไรบ้าง , คลินิกดูดไขมันที่เราสนใจปลอดภัยรึเปล่า, ดูดไขมันที่ไหนดี, รีวิวดูดไขมันเชื่อถือได้จริงไหม? ลองไปอ่านเพิ่มเติมเลยครับ

ดูดไขมันอันตรายไหม?


ดูดไขมันอันตรายไหม? ในการวิจัยล่าสุดพบว่าอันตรายจากการดูดไขมันน้อยลง พบเคสเสียชีวิตน้อยลง แต่ยังมีความเสี่ยงและอาการแทรกซ้อนเช่นเดียวกับการทำศัลยกรรมอื่น ๆ เช่น อาการบวมช้ำ รอยแผล ผิวเป็นคลื่น บุ๋ม หรือสัดส่วนไม่เท่ากัน เป็นต้น 

ดูดไขมันอันตรายน้อยลง เพราะสิ่งนี้!

จากการรวบรวบข้อมูลทั่วโลก พบว่าในสมัยก่อนเกิดภาวะไขมันวิ่งไปตามเส้นเลือดระหว่างดูดไขมันจริง แต่ในสมัยนี้จำนวนเคสที่เกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือดขณะดูดไขมันนั้นเป็น 0% แล้ว เพราะในปัจจุบันก่อนการดูดไขมันเรามีการฉีด Tumescent (ประกอบด้วยยาชา, ยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว หรือที่เรารู้จักในชื่อ Adrenaline, ตัวยาอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก) เข้าไปที่ชั้นไขมัน ทำให้โอกาสที่จะทำให้ไขมันหลุดเข้าไปอยู่ในเส้นเลือด เข้าไปอุดปอด หรือหลุดเข้าไปที่สมองไม่มีอีกต่อไป ซึ่งส่งผลให้เรื่องดูดไขมันอันตรายเป็นสิ่งที่แทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลยครับ


“อันตรายจากการดูดไขมันลดน้อยลง
แต่ยังคงต้องระวังอาการแทรกซ้อนหากเลือกทำผิดที่!!”

อันตรายจากการดูดไขมันที่ต้องระวัง! หากเลือกทำผิดที่! 

อันตรายระหว่างดูดไขมันสามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็น ภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ภาวะแผลติดเชื้อ หรือ กล้ามเนื้อเสียหายจากการใช้เข็มดูดไขมันที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น แต่อย่าเพิ่งตกใจไปนะครับ แม้จะฟังดูน่ากลัวแต่เกิดขึ้นได้ยากมากครับ และมีวิธีป้องกันอันตรายเหล่านี้ เราไปทำความรู้จักอันตรายเหล่านี้ให้ดีขึ้นกันดีกว่าครับ 

ไขมันอุดตันเส้นเลือดขณะดูดไขมัน 

ไขมันอุดตันเส้นเลือดขณะดูดไขมัน หรือ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน (Economy Class Syndrome) สามารถเกิดขึ้นได้ขณะที่ผ่าตัด โดยเฉพาะเคสที่ใช้เวลาในการผ่าตัดนาน คนไข้ที่อายุมากกว่า 60 ปี และผู้ที่มีปัญหาเส้นเลือดขอดที่ขาเป็นต้น ซึ่งภาวะดังกล่าวเกิดจากการที่เลือดแข็งตัวจนกลายเป็นลิ่มในคนที่ไม่ได้ขยับร่างกายนาน ๆ เมื่อมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น ลิ่มเลือดดังกล่าวก็จะวิ่งขึ้นไปอุดตันในอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกายโดยเฉพาะปอด ซึ่งถือเป็นอะไรที่อันตรายอย่างมากครับ

“AMARA ป้องกันทุกความเสี่ยงให้คุณ
ด้วยเครื่อง Intermittent Pneumatic Compression Device
ป้องกันการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังดูดไขมัน”


ดูดไขมันแล้วช็อค หัวใจหยุดเต้น, ติดเชื้อ, เสียชีวิต 

กรณีดังกล่าว มักเกิดขึ้นในสถานพยาบาลเถื่อน คลินิกดูดไขมันเถื่อน ทำโดยหมอเถื่อน ไม่ใช่แพทย์จริง ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ผู้ที่แอบอ้างตนว่าเป็นแพทย์ จึงให้การรักษาที่ไม่ถูกต้อง และไม่ปลอดภัย รวมทั้งอุปกรณ์และ เครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน ทำให้มีโอกาสติดเชื้อสูง ส่งผลให้การดูดไขมันอันตรายสูงมากขึ้นครับ 

ซึ่งแพทย์เถื่อน จะไม่มีประสบการณ์ อาจดูดไขมันผิดจุด อาจแทงทะลุไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ หรือพลาดโดยอวัยวะภายในได้ นอกจากนี้อาจจะเกิดกรณีที่คนไข้แพ้ยาบางชนิด หรือมีโรคประจำตัวบางชนิด ก็อาจจะทำให้คนไข้อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายได้ครับ

ระวังโดนหมอหลอก! อย่าเพิ่งดูดไขมันถ้ายังไม่ได้อ่านสิ่งนี้ คลิก!

ดูดไขมันหน้าท้อง แล้วเข็มจะแทงเข้าไปในลำไส้

กรณีที่ดูดไขมันหน้าท้อง แล้วเข็มดูดไขมันแทงเข้าไปโดนอวัยวะภายใน ในกรณีนี้ อาจเกิดขึ้นได้ หากผู้ที่ทำการดูดไขมันไม่ใช่แพทย์จริง ไม่ได้มีความรู้ทางการแพทย์ (หรืออาจเรียกได้ว่าหมอเถื่อน) เพราะมีโอกาสยากมากที่จะทะลุเข้าไปถึงอวัยวะภายในได้

เนื่องจากเข็มดูดไขมัน หรือท่อที่ใช้ในการดูดไขมัน จะมีลักษณะปลายทู่ ไม่แหลม การที่แทงทะลุกล้ามเนื้อหน้าท้อง เข้าไปจนถึงอวัยวะภายใน และเกิดอันตรายจนเสียชีวิตได้ จะต้องใช้แรงมาก และตั้งใจแทงเข้าไป จึงจะทะลุนั่นเอง เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะดูดไขมันแล้วเสียชีวิต หรือทำให้ดูดไขมันอันตราย ด้วยการแทงทะลุเข้าไปในช่องท้องจึงน้อยมากครับ 

เข็มดูดไขมัน bodyjet

อันตรายจากการใช้ยาสลบโดยไม่มีวิสัญญีแพทย์ 

การวางยาสลบนั้นจะต้องทำโดยวิสัญญีแพทย์เท่านั้น ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องดูดไขมันอันตรายไปได้ โดยหลังจากที่คนไข้ฟื้นขึ้นมา อาจจะมีความรู้สึกมึนงง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย หรือ รู้สึกเจ็บปวดเพราะยาสลบหมดฤทธิ์ เป็นต้นครับ ซึ่งเคสที่เสียชีวิตจากการวางยาสลบมักทำกับคลินิกที่ไม่มีวิสัญญีแพทย์ดูแล หรือ เป็นหมอดมยาแบบวิ่งเคส ไม่ได้ดูแบบ 1:1 ตลอดการผ่าตัดแบบที่ AMARA นั่นเองครับ

วิสัญญีแพทย์ดูดไขมัน - ดูดไขมันอันตราย

“การดมยาสลบเป็นเรื่องอันตราย!
จึงต้องดูแลโดยวิสัญญีแพทย์แบบ 1:1 จนคนไข้ได้สติ!”

รู้ก่อนดูด! ดูดไขมัน ข้อเสียมีอะไรบ้าง?

แม้ว่าการดูดไขมันจะมีความอันตรายน้อยลง แต่การดูดไขมันยังมีข้อเสียในเรื่องของความบวมช้ำหลังการดูดไขมัน ผิวที่เป็นคลื่นบุ๋ม รอยดำจากแผลผ่าตัด และในเคสที่ทำกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญอาจได้สัดส่วนที่ไม่เท่ากันได้ครับ 

ซึ่งในแต่ละตำแหน่งของการดูดไขมันมีข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้

ข้อเสียของการดูดไขมันหน้าท้อง 

  • มีน้ำไหลออกจากแผลในช่วง 1-3 วันหลังการผ่าตัด 
  • หน้าท้องย่น ยับ หลังการดูดไขมัน (โดยเฉพาะเคสที่ใช้เครื่องดูดไขมันที่ไม่มีคุณภาพ)
  • รอยแผลดูดไขมัน รอยดำ 
  • อาการบวมและชาหลังการผ่าตัด
  • อาการแทรกซ้อนจากยาสลบ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว บ้านหมุน
  • การสะสมของของเหลว (ซีโรมา) ใต้ชั้นผิวหนัง
  • การติดเชื้อที่แผล (สามารถเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะเคสที่ผ่าตัดในห้องที่ไม่ปลอดเชื้อ)
  • เลือดออกมากเกินไประหว่างหรือหลังการผ่าตัด
  • หากไม่ควบคุมอาหารหลังดูดไขมันสามารถกลับมาอ้วนได้
  • ไม่เหมาะกับทุกคน เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน

ข้อเสียของการดูดไขมันเหนียง

  • หน้าบวม ช้ำ และมีอาการชา  
  • ต้องพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์
  • ต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด สวมใส่ที่รัดคาง ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย
  • ใบหน้าอาจไม่สมส่วนขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์และความเชี่ยวชาญ
  • อาการแทรกซ้อนจากยาสลบ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว บ้านหมุน
  • ไม่เหมาะกับทุกคน เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน
  • เสี่ยงมุมปากตก หน้าเบี้ยว หากทำโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ

ข้อเสียของการดูดไขมันแขน 

  • ดูดไขมันแขน ข้อเสียคือมีความบวมช้ำ ปวดตึง และชา 
  • มีรอยแผลเป็นจุดด่างดำเหนือข้อศอกหรือใต้รักแร้
  • ยกแขนลำบากในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
  • ห้ามยกของหนักหรือออกกำลังกายที่ใช้ต้นแขน
  • ต้องสวมชุดกระชับให้ครบตามที่แพทย์แนะนำ
  • การสะสมของของเหลว (ซีโรมา) ใต้ชั้นผิวหนัง
  • อาการแทรกซ้อนจากยาสลบ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว บ้านหมุน
  • ไม่เหมาะกับทุกคน เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน 

ข้อเสียของการดูดไขมันต้นขา

  • ต้นขามีความบวม ช้ำ ตึง และมีความชาในช่วงแรก
  • มีรอยแผลที่บริเวณต้นขาด้านในและบริเวณหลังหัวเข่า
  • เคลื่อนไหวลำบาก ไม่สามารถออกกำลังกายขาได้ 
  • จำเป็นต้องใส่ชุดกระชับต้นขาในช่วงแรกอย่างเคร่ดครัด
  • ผิวต้นขาเป็นคลื่นหรือไม่เท่ากัน หากทำโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ 
  • การสะสมของของเหลว (ซีโรมา) ใต้ชั้นผิวหนัง
  • อาการแทรกซ้อนจากยาสลบ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว บ้านหมุน
  • ไม่เหมาะกับทุกคน เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน  


“หยุดทุกความเสี่ยงหลังดูดไขมัน
ได้ที่ AMARA ศูนย์ดูดไขมันอันดับ 1 เรื่องมาตรฐานความปลอดภัย”

วิธีป้องกันอาการแทรกซ้อนและอันตรายจากการดูดไขมัน

ดูดไขมันแล้วไม่ขิต! ไม่มีอาการแทรกซ้อน! ทำได้ไหม? จริง ๆ ทำได้และทำได้ดีด้วยครับ หากคุณเลือกดูดไขมันถูกที่ ซึ่งการป้องกันอาการแทรกซ้อนและอันตรายจากการดูดไขมัน เริ่มจากการเลือกดูดไขมันกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ตรวจสอบได้ มีวิสัญญีแพทย์ดูแล ห้องผ่าตัดได้มาตรฐานจาก “กระทรวงสาธารณสุข” 

เมื่อเราเลือกคลินิกดูดไขมันที่ดีได้แล้ว การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันครับ (อ่านเพิ่ม…วิธีเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน)

ห้องผ่าตัดดูดไขมัน - ดูดไขมันอันตราย

ดูดไขมันที่ไหนดี คลินิกดูดไขมันที่ไหนปลอดภัยได้มาตรฐาน?


ปัจจัยที่สำคัญต่อมา ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของดูดไขมันอันตราย นั่นก็คือ การเลือกคลินิกดูดไขมันที่ได้มาตรฐานครับ ซึ่งคลินิกดูดไขมันมีมากมายหลายร้อยแห่ง มีทั้งราคาหลักพันไปจนถึงหลักแสน แพทย์มีประสบการณ์มาก-น้อย เทคโนโลยีที่ใช้ในการสลายไขมันก็แตกต่างกันไป ก่อนจะตัดสินใจดูดไขมัน ควรศึกษาคลินิกที่จะทำอย่างรอบคอบ ศึกษาหลาย ๆ อย่าง เปรียบเทียบหลาย ๆ แห่ง วันนี้ Amara Clinic มาแนะนำ 7 เหตุผล ที่จะช่วยประกอบการตัดสินใจ ในการเลือกคลินิกดูดไขมัน เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการรักษาเป็นที่น่าพึงพอใจสูงสุดครับ

วิธีดูดไขมันหรือเครื่องดูดไขมันที่เลือก

ผลลัพธ์หลังดูดไขมัน ด้วยเครื่องดูดไขมันแต่ละเครื่อง แต่ละพลังงาน จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของสภาพผิวหลังดูดไขมัน ระยะเวลาในการพักฟื้น เป็นต้น คนไข้ควรศึกษาเบื้องต้นว่าแต่ละเครื่องมีข้อดีข้อเสียอย่างไร หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม ว่าเราเหมาะสมกับเครื่องดูดไขมันแบบไหน หากต้องการดูดไขมัน แล้วนำไขมันไปเติมต้องใช้เครื่องพลังงานอะไร เครื่องดูดไขมันแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร

ความน่าเชื่อถือของสถานพยาบาล

ถ้าเราไม่อยากเสี่ยงกับการดูดไขมันอันตราย ต่อมาก็ต้องมาพิจารณาความน่าเชื่อถือของคลินิกที่จะดูดไขมันกันครับ เมื่อเจอคลินิก หรือสถานพยาบาลที่สนใจจะทำการดูดไขมัน ไม่ว่าจะเป็นดูดไขมันหน้าท้อง, ดูดไขมันเอวเอส, ดูดไขมันต้นแขน, ดูดไขมันเหนียง, หรือดูดไขมันต้นขา ควรพิจารณาหลาย ๆ อย่างประกอบกัน ทั้งทีมแพทย์ที่ทำการรักษา เป็นแพทย์จริงไหม เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือไม่ ดูสถานที่ตั้ง บรรยากาศของคลินิก อ่านรีวิว ดูผลลัพธ์การรักษาจากเคสที่ผ่านมา รวมถึงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับบริการอย่างถูกต้องและครบถ้วน

รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง คนไข้จริง

ควรดูรีวิวดูดไขมัน หรือการแชร์ประสบการณ์ดูดไขมัน ของคนไข้จริงที่ทำในสถานพยาบาลดังกล่าว ว่าเป็นอย่างไร หรือดูจาก แชร์ประสบการณ์ดูดไขมัน pantip จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการประกอบ การตัดสินใจ และดูความน่าเชื่อถือของคลินิกดังกล่าวได้ แชร์ประสบการณ์ดูดไขมันจากคนไข้จริง

การเอาใจใส่ และการบริการที่ดี

การบริการที่ดี เอาใจใส่ลูกค้า ตั้งแต่ขั้นตอนแรก การตอบกลับ การให้คำแนะนำ ไปจนเสร็จสิ้นการรักษา จะช่วยเพิ่มความไว้วางใจ ความเชื่อใจ และความสบายใจแก่คนไข้ รวมถึงแสดงความรับผิดชอบ หากมีปัญหาอะไรในภายหลัง สถานพยาบาลจะยินดีช่วยท่านแก้ปัญหาหรือไม่

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (ตรวจสอบแพทย์)

ดูดไขมัน amara clinic

เมื่อเจอคลินิกที่สนใจ ให้ศึกษาข้อมูลของตัวแพทย์ที่จะทำการรักษาด้วย ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงหรือไม่ มีประสบการณ์มากน้อยเพียงใด หรือการเข้ารับการปรึกษากับแพทย์คนดังกล่าว ให้คำปรึกษาที่ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ตรงจุดที่เราต้องการไหม แพทย์จะต้องอธิบายปัญหา คลายข้อสงสัย และนำเสนอแนวทางการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัยให้คนไข้ได้ นอกจากนี้แพทย์ยังต้องพูดคุย ซักประวัติคนไข้ เพื่อประเมินเกี่ยวกับโรคประจำตัว ดูความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะอาจจะมีผลกระทบต่อผลลัพธ์หลังการดูดไขมันได้

เครื่องมือ อุปกรณ์ รวมถึงห้องผ่าตัด ต้องสะอาด และได้มาตรฐาน

ดูดไขมันอันตรายไหม ส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องมือในการดูดไขมันต้องได้รับการฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง ความสะอาดของห้องผ่าตัด รวมถึงการมีเครื่องมือพื้นฐานทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับกรณีฉุกเฉิน เพื่อรองรับความปลอดภัยให้กับคนไข้

วิธีระงับความเจ็บปวดของคนไข้ ระหว่างดูดไขมัน

การดูดไขมันมีทั้งแบบที่ใช้ยาสลบ และยาชา การใช้ยาสลบจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับแพทย์มากยิ่งขึ้น แต่คนไข้จะไม่รู้สึกตัว ไม่ได้สติ ส่วนการใช้ยาชา คนไข้จะรู้สึกตัวตลอดเวลา ลดความเสี่ยงจากการวางยาสลบ คนไข้สามารถพูดคุยกับแพทย์ในระหว่างดูดไขมันได้ ช่วยให้ลดความกังวลไปได้ระดับหนึ่ง ก่อนการใช้ยาชานั้น แพทย์จะมีการคำนวณปริมาณยาชาที่จะใช้ สำหรับคนไข้แต่ละเคสอย่างเหมาะสม ไม่ให้มาก หรือน้อยเกินไป เพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง ซึ่งจะส่งผลให้ลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดภาวะดูดไขมันอันตรายได้ครับ

สรุป

          เห็นมั้ยครับว่าในปัจจุบัน การดูดไขมันไม่ได้น่ากลัว และไม่ได้ทำให้ดูดไขมันอันตรายอย่างที่คิดเลย เพียงเลือกคลินิกดูดไขมันที่น่าเชื่อถือ แพทย์ที่ไว้วางใจ เป็นผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์สูง ไม่เห็นแก่ราคาที่ถูกจนเกินไป ก็จะช่วยให้คุณได้ดูดไขมันอย่างปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าพึงพอใจสูงสุดครับ หมอหวังว่าบทความนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยที่ว่า “ดูดไขมันอันตรายไหม” รวมถึง “ดูดไขมันที่ไหนดี” ไปได้ ไม่มากก็น้อยนะครับ

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่

สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB

ติดต่อเบอร์โทร : 

062-789-1999

⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)

KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย