ถ้าถามว่าเหนียงคืออะไร? เหนียงคือส่วนเกินที่อยู่ใต้คางของเรา ทำให้คางชั้นเดียวกลายเป็นสองชั้นขึ้นมาง่าย ๆ แม้ว่าคุณจะเป็นคนผอมเพรียวแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าคุณมีเหนียงขึ้นมาหน้าของคุณก็จะดูกลมและใหญ่ขึ้นในทันที (หน้าอ้วน) บางคนมีน้อย บางคนมีมาก ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหารของแต่ละคน ลักษณะของเหนียงจะเป็นก้อนไขมันอยู่ใต้คาง ก้มแล้วรู้สึกได้ว่ามีอะไรอยู่ใต้คาง ทั้งนี้ เหนียงไม่ได้เกิดได้จากไขมันส่วนเกินเท่านั้น ยังเกิดจากปัญหาผิวหย่อนคล้อย และกล้ามเนื้อใบหน้าส่วนล่างหย่อนตัวได้อีกด้วย

เหนียงที่เกิดจากไขมันส่วนเกิน

   ไขมันส่วนเกินเกิดมาจากการที่ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินไป หรือรับพลังงานมาแล้วจำนวนนึง แต่ดันมีการเผาผลาญน้อยกว่าที่คาดคิดไว้ พลังงานที่หลงเหลืออยู่นี้ จะไปสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น เหนียงใต้คาง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง รอบเอว ฯลฯ ซึ่งการที่ไขมันตามแต่ละส่วนจะเพิ่มหรือลดได้นั้น เราไม่สามารถกำหนดหรือระบุเฉพาะส่วนได้ ขึ้นอยู่กับร่างกายของเราจะเลือกสรรเลย ดังนั้น ปัญหาไขมันส่วนเกินเหล่านี้ จึงเป็นปัญหาที่สามารถพบได้ในทุกคน บางคนอาจจะพบที่เหนียงเยอะ หรือบางคนอาจไม่มีเหนียง แต่มีหน้าท้องใหญ่แทน เป็นต้น

เหนียงที่เกิดจากความหย่อนคล้อย

   บริเวณไหนที่มีการหุบเข้าหุบออก พับยืด หรือเกิดการขยับบ่อย ๆ จะทำให้สภาพผิวในบริเวณนั้นขาดความยืดหยุ่นได้ เมื่อผิวขาดความยืดหยุ่น ก็จะเริ่มไม่กระชับเต่งตึง และมีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยตามมาก บริเวณใต้คางก็เช่นกัน บางคนดูเหนียงเยอะ แต่พอจับแล้วแทบไม่มีไขมันส่วนเกินเลย แต่ดันเป็นผิวที่หย่อนคล้อยแทนซะงั้น ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับคนที่มีอายุแล้ว นอกจากเหนียงจะเหี่ยวย่นเป็นชั้น ๆ หลายชั้นแล้ว อาจพบปัญหาลำคอไม่กระชับร่วมด้วย

กล้ามเนื้อหย่อนคล้อย

   กล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณใบหน้าส่วนล่าง ลำคอ และบริเวณไหปลาร้า มีชื่อเรียกว่ากล้ามเนื้อ Platysma หน้าที่ของกล้ามเนื้อส่วนนี้คือการพยุงใบหน้าส่วนล่างไว้ เมื่ออายุมากขึ้น ความเสื่อมโทรมของร่างกายเริ่มปรากฏ กล้ามเนื้อ Platysma อาจจะหย่อนคล้อยลงมาทำให้ดูเหมือนมีเหนียงได้นั่นเอง

   วิธีลดเหนียงที่เกิดจากไขมันส่วนเกิน จะเน้นในการช่วยเร่งให้เกิดการเผาผลาญไขมันได้ เช่น การออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร หรือการปรับพฤติกรรมการกิน เป็นต้น หรือจะต้องเป็นหัตถการทำให้เซลล์ไขมันบริเวณเหนียงใต้คางของเรามันสลายไป อย่างการฉีดแฟตเหนียง นวดสลายไขมันเหนียง หรือการดูดไขมันเหนียง เป็นต้น

   สำหรับวิธีลดเหนียงที่เกิดจากความหย่อนคล้อย จะต้องอาศัยสิ่งที่ทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ทำให้เกิดการจัดเรียงตัวของเส้นใยคอลลาเจนใหม่ ซึ่งนั่นก็คือพลังงามความร้อนนั้นเอง! แต่พลังงานความร้อนมีหลายระดับ ชั้นผิวแต่ละชั้นสามารถรับความร้อนได้ไม่เท่ากัน รวมไปถึงระดับความหย่อนคล้อยของเหนียงก็จะเหมาะสมกับเครื่องมือไม่เหมือนกันด้วย 

   โดยแต่ละการรักษาด้วยเทคนิคทางการแพทย์ จะแบ่งออกเป็น 5 วิธีลดเหนียงใต้คาง ซึ่งแต่ละเทคนิคจะเหมาะกับการลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วัน ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละสาเหตุของการเกิดเหนียงใต้คางครับ

1. วิธีลดเหนียงด้วยเครื่องนวดสลายไขมัน

   ใครที่เลือกวิธีลดเหนียงเป็นการนวดสลายไขมัน ต้องทำความเข้าใจและศึกษาเรื่องเครื่องมือดี ๆ เพราะเครื่องนวดสลายไขมันเหนียง มักจะเป็นตัวเดียวกัน หรือมีความคล้ายคลึงกันกับเครื่องนวดกระชับสัดส่วน (เครื่องนวด RF) เพราะจะอาศัยพลังงานความร้อนที่ได้มาจากพลังงานคลื่นวิทยุ (Radio frequency) ในการสลายไขมันส่วนเกิน

   แต่สิ่งที่ต้องเช็คให้ดีนั้น เป็นเพราะว่าบางเครื่องสามารถส่งพลังงานลงไปได้ถึงชั้นผิวเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถสลายไขมันเหนียงได้ แต่ถ้าเป็นเครื่องบางตัวเช่น Venus Legacy ก็สามารถส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นไขมันได้โดยที่ไม่มีปัญหาเรื่องผิวไหม้แต่อย่างใด

2. ดูดไขมันเหนียง วิธีลดเหนียงเร่งด่วน หน้าเรียวทันใจ

   การดูดไขมันเหนียง (Double Chin Liposuction) เป็นวิธีลดเหนียงที่เห็นผลชัดและเห็นผลแทบจะทันทีหลังจากที่ทำเสร็จเลย โดยจะเป็นการที่หมอใช้เครื่องมือสอดผ่านชั้นผิวเข้าไปที่ชั้นไขมัน จากนั้นก็จะสลายเซลล์ไขมันให้แยกตัวออกจากกัน แล้วก็ดูดออกมาเป็นขั้นตอนสุดท้าย เหนียงที่เกิดจากไขมันก็จะยุบตัวลงไปในทันที มีขนาดเล็กลง และดูเฟิร์มกระชับมากยิ่งขึ้น

   สำหรับใครที่จะเลือกการดูดไขมันเป็นวิธีลดเหนียง อย่าลืมสอบถามสถานที่ดูดไขมันให้ดีก่อนว่าดูดจากบริเวณไหนถึงบริเวณไหน บางคลินิกอาจจะรวมเหนียง แก้ม และกรอบหน้าเข้าไว้ด้วยกันได้ (จริง ๆ เป็นคนละบริเวณกัน) ทั้งนี้ บริเวณใบหน้าเป็นตำแหน่งที่มีเส้นประสาทอยู่เยอะ หากแพทย์ไม่ชำนาญจริงอาจทำให้ได้การดูดไขมันไปกระทบเส้นประสาท จนทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างใบหน้าเบี้ยว หรือปากเบี้ยวได้

3. ฉีดแฟต วิธีลดเหนียงแบบฉีด

   การฉีดสลายไขมันเหนียงเป็นวิธีลดเหนียงที่ได้รับความนิยมสูง เพราะว่าราคาถูกกว่า ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน (ขึ้นอยู่กับการผสมตัวยาของแต่ละคลินิก) มีหลักการในการลดไขมันเหนียงอยู่ 2 แบบ คือ การทำให้เซลล์ไขมันหดตัวลงชั่วคราว (hypotrophy) จากนั้นก็สามารถกลับมาพองตัวขึ้นได้อีกครั้ง สังเกตได้จากอาการที่เจ็บน้อยมาก ไม่บวม และเห็นผลชัด ส่วนอีกแบบหนึ่งคือการทำให้เซลล์ไขมันตายและถูกขับออกมาตามกลไกของร่างกาย แบบนี้จะอักเสบเยอะ บวมเยอะ และเจ็บมาก เห็นผลนานกว่า

   นอกจากนี้ การฉีดสลายไขมันเหนียงยังเป็นวิธีลดเหนียงที่ง่ายและใช้ระยะเวลาทำไม่นาน เพียงแค่เดินเข้าไปพบหมอที่คลินิกความงาม แปะยาชา และฉีดได้เลย แต่มันจะค่อย ๆ เห็นหลังจากฉีดไปแล้วประมาณ 1-2 สัปดาห์เป็นต้นไป สามารถสลายไขมันเหนียงได้เพียงครั้งละประมาณ 20% เท่านั้น ดังนั้น จึงต้องมีการฉีดซ้ำบ่อย ๆ ติดต่อกันช่วงนึง จึงจะเห็นผล (เอาไปเอามา ราคาเริ่มใกล้เคียงกับดูดไขมันเหนียงแล้วครับ ส่วนตัวหมอเชียร์ให้ดูดไขมันออกไปเลยดีกว่า ส่วนการฉีดสลายไขมันไว้ฉีดเก็บไขมันที่เหลือ จากการที่ดูดไขมันในบางจุดไม่ถึงจะดีกว่าครับ)