กินแล้วไม่อ้วนจะอันตรายไหม? เกิดจากอะไรกันแน่?

กินแล้วไม่อ้วน

ถ้าพูดถึงคนที่กินแล้วไม่อ้วนหรือกินเท่าไหร่ก็ดูไม่อ้วนขึ้นสักที คนส่วนใหญ่ล้วนอยากเป็นคนแบบนั้นแน่นอน เพราะได้กินอาหารอร่อย ๆ ตามใจปาก กินเท่าไหร่ก็ได้ตามที่เราต้องการ ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าน้ำหนักจะขึ้นไหม? เหนียงจะโผล่ไหม? หรือจะอ้วนขึ้นขนาดไหน? หลายคนมองว่าการกินแล้วไม่อ้วนเป็นสิ่งที่ดี แต่จริง ๆ แล้ว มันอาจจะไม่ได้ดีเสมอไป หลายต่อหลายคนที่เคยเป็นคนกินแล้วไม่อ้วน มีความรู้สึกมั่นใจ จึงกินแบบไม่ยั้ง ทำให้อ้วนขึ้นแบบไม่รู้ตัวก็มีเยอะเลยครับ เราลองมาหาสาเหตุกันดีกว่าว่าทำไมบางคนถึงกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนขึ้นสักที!? – หมอไอซ์ Amara Clinic (KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน)

คนที่ กินแล้วไม่อ้วน กินแล้วน้ำหนักไม่ขึ้น กินอะไรก็ตัวเท่าเดิม มักจะโดนทักโดนถามอยู่ตลอดว่า “รู้จักหมูกะทะไหม?” หรือ  “ดีจัง กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ทำยังไงถึงจะได้แบบนี้?” เป็นต้น ซึ่งบางทีมันก็อาจจะเป็นสิ่งที่คนผอมเพราะกินแล้วไม่อ้วนรู้สึกกังวลใจ และคิดว่ามันเป็นปัญหาอยู่ก็ได้นะครับ สาว ๆ บางคนก็อยากมีเนื้อมีหนัง มีความอวบอิ่มขึ้นบ้าง แต่ด้วยการที่กินแล้วไม่อ้วนนี้ ดันทำให้รูปร่างไม่อวบขึ้นอย่างที่คิด จริง ๆ มันก็มีทั้งปัจจัยภายในและปัจจุยภายนอกของร่างกายเลยครับ สำหรับสาเหตุที่ทำให้บางคนกินแล้วไม่อ้วน มีดังนี้

1.ฮอร์โมนของร่างกาย

ในร่างกายของเราจะมีฮอร์โมนที่ควบคุมอาการหิวอยู่ 2 ฮอร์โมน ซึ่งก็คือฮอร์โมนกรีลิน (Ghrelin) ที่กระตุ้นให้เกิดความอยากอาหาร และฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ที่มีหน้าที่ระงับความอยากอาหาร โดยปกติแล้ว ถ้าฮอร์โมนชนิดหนึ่งมีน้อย ฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่งจะมีมาก สำหรับคนที่กินแล้วไม่อ้วนนั้น แปลว่าเป็นคนที่มีฮอร์โมนเลปตินมากกว่า ทำให้ไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไหร่นัก จึงกินอาหารน้อยลง และทำให้ไม่อ้วนขึ้นนั่นเอง

2.ระบบเผาผลาญดีเกินไป

คนผอมที่ชื่นชอบการกินมาก กินเยอะจริง แต่กินแล้วไม่อ้วนขึ้นเลย มักจะมีระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายที่ดีและสูง รวมไปถึงกระบวนการย่อนอาหาร ดูดซึมอาหาร และเผาผลาญพลังงานเพื่อนำไปใช้เลย บางคนอาจจะมีอาการถ่ายบ่อย ๆ ร่วมด้วย นอกจากปัจจัยด้านร่างกายของแต่ละบุคคลแล้ว คนอายุน้อยกว่าจะมีระบบเผาผลาญดีกว่าคนที่มีอายุมากกว่า และผู้ชาย จะมีอัตราการเผาผลาญที่สูงกว่าผู้หญิงครับ อาจจะด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วยเช่นกัน

3.ลำไส้ผิดปกติ

หลังจากที่เรากินอาหารลงไปแล้ว ลำไส้จะทำหน้าที่ย่อยอาหาร ลำเลียงอาหาร ดูดซึมสารอาหาร และช่วยในเรื่องของการขับถ่ายด้วย คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้หรือลำไส้ผิดปกติ อาจทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้น้อย หรือไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มประสิทธิภาพได้ และทำให้เกิดภาวะกินแล้วไม่อ้วนได้เช่นกัน ทั้งนี้ บางคนอาจจะเป็นโรคสำไส้อักเสบ โรคพยาธิในลำไส้ หรืออื่น ๆ ร่วมด้วยก็ได้

กินแล้วไม่อ้วน

4.โรคเรื้อรัง

ปัญหาเรื่องสุขภาพร่างกายหรือโรคประจำตัว อย่างโรคมะเร็ง วัณโรค การตัดเชื้อ HIV หรือไม่สบาย ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ให้คนเรามีภาวะกินแล้วไม่อ้วนได้เช่นกัน หากใครที่พบว่าตัวเองหรือคนไข้ตัว มีอาการของโรคที่ไม่รู้จัก ร่วมกับการกินแล้วไม่อ้วนขึ้น ติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด เพราะคุณอาจจะกำลังเผชิญกับโรคร้ายได้

5.พฤติกรรมการใช้ชีวิต

สาเหตุที่กินแล้วไม่อ้วนที่เป็นปัจจัยภายนอกร่างกาย หลัก ๆ แล้วจะเป็นเรื่องพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล เช่น กินเยอะแต่ก็ขยับร่างกายเยอะ ทำให้มีการเผาผลาญอยู่ตลอด จึงไม่มีพลังงานส่วนเกินทำให้อ้วนขึ้น, กินเยอะ แต่เลือกกินอาหารบางชนิดที่ให้พลังงานไม่พอ หรือกินอาหารแบบนับแคลอรี่ เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรานี่แหละครับ จะส่งผลต่อการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกายด้วย

สอบถามฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี

กินแล้วไม่อ้วนอันตรายไหม?

คนที่มีภาวะกินแล้วไม่อ้วนมักจะมีลักษณะทางร่างกายที่ผอมเพรียว และตัวเล็กกว่าคนทั่ว ๆ ไป มีโอกาสป่วยง่ายกว่าคนปกติ เพราะสิ่งที่ทำให้กินแล้วไม่อ้วน อาจมาจากการที่ร่างกายได้รับพลังงานน้อย ไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้งาน และรวมไปถึงการได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ จึงทำให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำ เจ็บป่วยได้ง่าย นอกจากนี้ จะสังเกตได้ว่าไม่ค่อยมีแรงและเหนื่อยได้ง่าย เมื่อได้ทำกิจกรรมที่ต้องใช้กำลัง

หากถามว่าภาวะกินแล้วไม่อ้วนอันตรายไหม? อย่างไรก็ตามเราต้องมาดูรายละเอียดของแต่ละเคสไปครับ อย่างที่หมอบอกไปว่าบางคนอาจจะกำลังเผชิญกับโรคภัยอยู่ก็เป็นได้ หรือบางคนอาจจะแค่ระบบเผาผลาญทำงานดีมากเกินไปเท่านั้นเอง หากไม่มีอาการผิดปกติอะไร ก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลเลยครับ แต่ถ้าใครเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีอาการผิดปกติ ป่วยง่าย หรือพบว่าตัวเองหน้ามืดบ่อย ๆ แบบนี้ ควรที่จะไปพบแพทย์ เพื่อตรวจเช็คร่างกายให้แน่ชัด

กินแล้วไม่อ้วน

คนกินแล้วไม่อ้วน มีโอกาสอ้วนได้ไหม?

คนที่กินแล้วไม่อ้วน มีโอกาสอ้วนได้เช่นกัน หมอขอยกตัวอย่างคนไข้ดูดไขมันของหมอสักเคสนึง สมมติว่าชื่อคุณ A นะครับ ช่วงอายุประมาณ 20 กลาง ๆ คุณ A เป็นคนที่เคยผอมมาก่อน น้ำหนักไม่เคยเกิน 45 กิโลกรัม ชอบกินมาก กินจุกจิกตลอดทั้งวัน ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะของหวานและอาหารฟาสต์ฟู้ด พอรู้ว่าตัวเองกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน เลยไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่ แต่พอเริ่มอายุเข้าเลข 3 แล้ว จากไขมันส่วนเกินที่แทบจะไม่มีเลย ดันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากคนผอมที่ใส่เสื้อผ้าไซซ์ XS-S ต้องขยับมาเป็น M แล้วก็เป็น L เพื่อที่จะได้รู้สึกสบาย ๆ ขึ้น

ดังนั้น หมอขอสรุปได้ว่าคนผอมหรือคนที่กินแล้วไม่อ้วน สามารถอ้วนได้ในอนาคต อย่างเคสของคุณ A นั้น หมอคาดว่าอ้วนจากการะที่ระบบเผาผลาญทำงานได้ช้าลง เนื่องมาจากอายุที่เพิ่มขึ้นครับ

บอกลาส่วนเกินกวนใจด้วยการดูดไขมัน

สำหรับคนที่ในอดีตเคยมีภาวะกินแล้วไม่อ้วน แต่ปัจจุบันกินอะไรก็อ้วน มีไขมันส่วนเกินสะสมเยอะ จากหน้าท้องแบน ๆ ก็มีพุงยื่นออกมา, จากเอวคอด ๆ ก็มีห่วงยางมาแทนที่, จากคนที่ขาเรียวเล็ก ก็กลายเป็นคนที่มีปัญหาขาเบียดปลิ้น หรือแม้แต่คนที่เคยแขนเล็กจับไปเจอแต่กระดูก ตอนนี้กลายเป็นคนแขนใหญ่แขนแน่นดูตัวบึกก็ตาม หากคุณรู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่าง อยากกลับไปตัวเล็กตัวผอม หุ่นดีมีเอวเอสเหมือนเดิม แต่ไม่สะดวกออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารทุกวัน ๆ หมอขอแนะนำให้รู้จักกับการดูดไขมันเลยครับ

กินแล้วไม่อ้วน
กินแล้วไม่อ้วน
กินแล้วไม่อ้วน

การดูดไขมัน (Liposuction) ตัวช่วยกำจัดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างตรงจุดและแม่นยำที่สุด ไม่ว่าคุณจะมีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ในส่วนไหน (หน้าท้อง, รอบเอว, ต้นขาใน, ต้นขานอก, ปีกสะโพก, ต้นแขน, นมน้อย, แผ่นหลัง ฯลฯ) การดูดไขมันก็สามารถสลายและดูดเอาไขมันส่วนเกินตรงจุดนั้นออกมาได้หมด ซึ่งจะมีการเปิดแผลขนาดเล็กก่อน จกานั้นก็จะสอดท่อดูดไขมันลงไปเพื่อสลายเซลล์ไขมันและดูดออกมา ใช้ระยะเวลาในการทำเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง) เมื่อเสร็จแล้ว สัดส่วนก็จะเล็กลงในทันทีครับ

ลดไขมันพร้อมกับสร้างร่องได้ดั่งใจ!

ในปัจจุบันนี้ เครื่องมือและอุปกรณ์ รวมไปถึงเทคโนโลยีในการดูดไขมันค่อนข้างที่จะทันสมัยมากนะครับ อีกทั้งแพทย์ยังมีฝีมือและเทคนิคต่าง ๆ เยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก จึงทำให้สามารถเหลาปรับทรงรูปร่างได้ตามที่ต้องการ (ขึ้นอยู่กับสรีระเดิมของคนไข้แต่ละคนด้วย) โดยเฉพาะกับการดูดไขมันเอวเอส เพื่อสร้าง S Curve, การดูดไขมันร่อง 11 ปั้น Sexy Line หรือการสร้าง Six Pack เป็นต้น

ดังนั้น สำหรับคนที่อยากหุ่นดีเหมือนเข้ายิมไปฟิตมาหนัก ๆ ไม่เพียงแค่ผอมเพรียวลงเท่านั้น รูปร่างยังเฟิร์มกระชับ และมีร่องกล้ามเนื้อขึ้นมาให้เห็นร่วมด้วย หมอแนะนำให้ดูดไขมันเลยครับ ใช้ระยะเวลาไม่นาน เห็นผลเร็ว เจ็บน้อย แผลจางไว และใช้เวลาเพียง 1-2 เดือนเท่านั้น สัดส่วนก็จะเข้าที่สวย พร้อมอวดแล้ว

กินแล้วไม่อ้วน
กินแล้วไม่อ้วน
กินแล้วไม่อ้วน

ดูดไขมันแล้ว นำไขมันไปเติมเต็มต่อได้!

เครื่องดูดไขมันมีอยู่หลายชนิด ส่วนใหญ่เหมาะกับการดูดไขมันทิ้งเท่านั้น มีเพียงแค่เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ Body-jet เท่านั้น ที่สามารถนำเซลล์ไขมันที่ดูดออกมา ไปเติมเต็มส่วนอื่น ๆ อย่างหน้าอก ใบหน้า สะโพก ก้น น้อง หรือหลังมือต่อได้ ซึ่งเราจะเรียกหัตถการนี้ว่าการเติมไขมัน (Fat Grafting) นั่นเอง

กินแล้วไม่อ้วน
กินแล้วไม่อ้วน
กินแล้วไม่อ้วน

เนื่องจากเครื่องดูดไขมัน Body-jet เป็นเครื่องเดียวที่ใช้พลังงานน้ำในการเซาะสลายเซลล์ไขมันให้แตกตัวออกจากกัน จึงทำให้มีความอ่อนโยนและนุ่มนวลสูง เส้นเลือด เส้นประสาท รวมไปถึงไขมันได้รับการกระทบกระเทือนน้อยมาก เมื่อดูดไขมันออกมาแล้ว จึงได้เซลล์ไขมันที่ยังมีชีวิตอยู่และมีคุณภาพเหมาะกับการเติมเต็ม จากนั้นก็จะขำไปเข้าสู่กระบวนการคัดแยกและปั่นเซลล์ไขมันให้มีขนาดเล็กตามที่ต้องการ ก่อนที่จะนำไปเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการต่อไป โดยในเคสที่ดูดไขมัน Body-jet จะมีความรู้สึกเจ็บน้อยมากกว่าเคสทั่ว ๆ ไป และใช้ระยะเวลาพักฟื้นที่น้อยกว่าด้วยเช่นกัน

กินแล้วไม่อ้วน

บทความที่เกี่ยวข้อง

คอมบูชา คืออะไร? กินชาหมักลดน้ำหนักได้จริงไหม?

อ่านเพิ่มเติม

สุดยอดอาหารแคลน้อยครบ 3 มื้อ กินอะไรดีมาดูกัน!

อ่านเพิ่มเติม

7 อาหารลดพุง ลดเอว เร่งด่วน หามาทานด่วน!

อ่านเพิ่มเติม

สรุป

          คนผอมส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่กินแล้วไม่อ้วน เพราะกินในปริมาณน้อยทำให้ไม่มีพลังงานส่วนเกิน และอาจจะกินเยอะ จ่มีระบบเผาผลาญดีก็ย่อมได้ ปกติแล้วภาวะนี้ พบได้เป็นปกติทั่วไป ไมได้อันตรายแต่อย่างใด แต่ถ้าเคยอ้วนมาก่อนแล้วผอมลงอย่างรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่รับประทานอาหารตามปกติ อันนี้น่าเป็นห่วงครับ ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคอย่างละเอียด สุดท้ายนี้ สำหรับคนที่เคยกินแล้วไม่อ้วน แต่ปัจจุบันนี้อ้วนแล้ว กำลังมองหาวิธีลดส่วนเกินที่น่ากังวลใจอยู่ การดูดไขมันที่ Amara Clinic ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้คุณกลับไปมีรูปร่างสวย ๆ ดั่งเดิมได้

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

KOL Trainer
แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย