โรคบูลิเมีย-โรคล้วงคอ สุดแปลก กลัวอ้วนแต่ไม่กลัวตาย!

โรคบูลิเมีย

สวัสดีค่ะ วันนี้กลับมาพบกับหมอมะปราง Amara Clinic กันอีกเช่นเคยค่ะ อย่างที่หลายคนได้มีโอกาสอ่านบทความเกี่ยวกับโรคคลั่งผอม หรือ Anorexia Nervosa กันไปแล้วนะคะ วันนี้ก็มาต่อกันในภาคต่อของโรคในกลุ่ม Eating Disorder กันค่ะ นั่นก็คือ โรคบูลิเมีย หรือหลายคนรู้จักกันว่า โรคล้วงคอ ซึ่งเป็นโรคที่มีความคิดเดียวกันกับโรคคลั่งผอม แต่จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของพฤติกรรมการรับประทานอาหารค่ะ โดยเฉพาะในกลุ่มของนางแบบต่างประเทศ เนื่องจากจะต้องรักษารูปร่างอยู่เสมอ รวมไปถึงมักพบได้ทั่วไปในหมู่ของเหล่าวัยรุ่นผู้หญิง เพราะต้องการให้ตัวเองมีรูปร่างที่ดูดีเวลาใส่เสื้อผ้าและอยากให้เป็นที่ยอมรับจากกลุ่มเพื่อน ๆ ค่ะ

โรคบูลิเมีย (Bulimia Nervosa) หรือโรคล้วงคอ คือ ภาวะที่คนไข้จะมีพฤติกรรมทานอาหารทุกอย่างที่อยากทานในปริมาณมาก ๆ จากนั้นจะพยายามกำจัดสิ่งที่ทานเข้าไปออกให้หมดโดยการล้วงคอให้อาเจียนออกมา ใช้ยาขับปัสสาวะ ยาลดน้ำหนัก ยาถ่าย หรือออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการจำกัดปริมาณอาหารให้น้อยมาก ๆ รวมไปถึงอดอาหาร ด้วยความรู้สึกผิดและกลัวอ้วน ซึ่งในภายหลัง ถึงแม้จะไม่กินแล้วล้วงคอก็จะมีภาวะอาเจียนออกมาได้เองค่ะ โดยคนไข้ที่เป็นโรคล้วงคอจะมีแนวคิดกลัวอ้วน กลัวรูปร่างไม่สมส่วน ซึ่งมีการรับรู้ว่ารูปร่างของตัวเองนั้นอ้วนอยู่ตลอดเวลาถึงแม้ขณะนั้นก็ผอมอยู่แล้วก็ตามค่ะ และยังต้องการลดน้ำหนักต่อไปเรื่อย ๆ

โรคบูลิเมีย ถือเป็นหนึ่งในโรคของกลุ่ม Eating Disorder ที่ประกอบด้วยโรคคลั่งผอม Anorexia Nervosa และ โรคกินไม่หยุด Binge Eating Disorder ซึ่งคนไข้ที่มีภาวะของโรคในกลุ่มนี้จะมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ผิดปกติ ที่มีผลทำให้น้ำหนักตัวลดลงมากผิดปกติหรือน้ำหนักตัวมาก จนนำไปสู่ปัญหาทั้งทางสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตที่ร้ายแรง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ค่ะ

โรคบูลิเมีย

Ana Carolina Reston นางแบบชาวบราซิลที่ป่วยเป็นโรคบูลิเมีย
ขอบคุณภาพประกอบจาก :
pinterest

หมอจะขอหยิบยกกรณีของนางแบบที่ป่วยเป็นโรคบูลิเมียที่ต้องจบชีวิตลงก่อนวัยอันควร เพื่อให้เห็นถึงอันตรายและเป็นอุทาหรณ์จากโรคล้วงคอที่ว่านี้นะคะ เธอคนนี้มีชื่อว่า Ana Carolina Reston นางแบบสาวชาวบราซิลที่ต้องประสบกับภาวะโรคล้วงคอซึ่งโรคในกลุ่มพฤติกรรมรับประทานอาหารผิดปกติ หรือ Eating Disorder โดยเธอเริ่มก้าวเข้าสู่วงการนางแบบในวัยเพียง 13 ปี และสังกัดอยู่ในเอเจนซี่ชื่อดังมากมาย อาทิ Ford , Elite และ L’equipe รวมไปถึงได้เข้าร่วมในแคมเปญโฆษณาของแบรนด์ชื่อดังอย่าง Giorgio Armani อีกด้วยค่ะ

โดยจุดเริ่มต้นของภาวะโรคบูลิเมีย หรือ โรคล้วงคอ ของ Ana เกิดในปี 2004 เมื่อเธอได้เดินทางเพื่อไปทำการคัดเลือกนักแสดงที่ประเทศจีน แล้วโดนหาว่าเธออ้วนเกินไป นี่เองจึงเป็นที่มาที่ทำให้ Ana มีความรู้สึกว่าเธออ้วนไป ต้องลดน้ำหนัก และเริ่มเข้าสู่โรคคลั่งผอม (Anorexia Nervosa) และโรคล้วงคอ (Bulimia Nervosa) ด้วยน้ำหนักเพียง 40 กิโลกรัม ส่วนสูง 168 เซนติเมตร ถ้านับเป็นค่า BMI แล้วเพียง 14.1 ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสุด ๆ ค่ะ โดย Ana จำกัดการทานอาหารให้น้อยที่สุด ซึ่งใน 1 วัน เธอทานเพียงแอปเปิ้ลและมะเขือเทศเท่านั้น และบางครั้งก็กินแล้วล้วงคอเพื่อให้อาเจียนอาหารที่ทานเข้าไปออกจนหมด

ด้วยสุขภาพที่ย่ำแย่ลงไปทุกวัน ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2006 Ana ถูกหามส่งโรงพยาบาลด้วยภาวะไตทำงานผิดปกติและภาวะหัวใจล้มเหลวจากโรคบูลิเมีย ซึ่งในขณะนั้นเธอกำลังเข้าร่วมการเดินแฟชั่นโชว์ในเมืองมาดริด ประเทศสเปน โดยในเวลาต่อมาเธอก็ไม่สามารถต่อสู้กับช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ได้ และเสียชีวิตลงในขณะอายุเพียง 21 ปีเท่านั้นค่ะ

อ้วนหรือผอม! เช็คค่า BMI ด้วยตัวคุณเอง คลิก

สาเหตุของโรคบูลิเมีย โรคล้วงคอ

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคบูลิเมีย และโรคอื่น ๆ ในกลุ่มของ Eating Disorder มักพบว่ามีความเกี่ยวโยงกันหลายปัจจัย เช่น ปัจจัยทางร่างกาย, จิตใจ, อารมณ์, สังคม ฯลฯ ส่งผลให้คนไข้โรคบูลิเมีย หรือ โรคล้วงคอ ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง อาจมีปัญหาเรื่องจิตเวชร่วมด้วย อย่างอาการของโรคซึมเศร้า, ภาวะย้ำคิดย้ำทำ, ยึดติดความสมบูรณ์แบบในชีวิต คาดหวังสูง (Perfectionist) รวมไปถึงมีภาวะความเครียดสูง ซึ่งสามารถแยกเป็นสาเหตุหลัก ๆ ของโรคบูลิเมีย ตามข้อมูลด้านล่างค่ะ

โรคบูลิเมีย

สภาวะทางจิตใจและอารมณ์

ปัญหาทางสุขภาพจิตเป็นส่วนที่นำไปสู่โรคบูลิเมีย อาทิ โรคซึมเศร้า, มีความเครียด ความกังวลสูง, เป็นคนที่มีความคาดหวังสูง, เป็นคนที่ต้องการความสมบูรณ์แบบในชีวิตอยู่ตลอดเวลา (Perfectionist) รวมไปถึงการโดนบูลลี่ โดนล้อ ก็เป็นตัวนำไปสู่โรคบูลิเมียได้ค่ะ 

อายุและเพศ

โดยส่วนใหญ่แล้ว การเกิดโรคบูลิเมียมักจะพบได้ในช่วงวัยรุ่นไปถึงวัยทำงานที่เป็นเพศหญิงเสียส่วนใหญ่ เพราะเป็นช่วงวัยที่ต้องเข้าสังคม ได้รับอิทธิพลในกลุ่มวัยเดียวกัน และมีความเครียดสูงจากสังคม การเรียน การงาน โดยมักจะมีความกังวลมากเกี่ยวกับน้ำหนักและรูปร่าง

กรรมพันธุ์

หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเกี่ยวกับการกินผิดปกติ ก็จะพบว่าลูกหลานในบ้านมีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ไปด้วยค่ะ รวมไปถึงเป็นโรคซึมเศร้า โรคติดสุรา หรือการติดสารเสพติด

ค่านิยมในสังคม

ความเชื่อมโยงกันระหว่าง Social Media กับ โรคการกินผิดปกติ Eating Disorder ที่มีเน็ตไอดอล ดารานักแสดง นายแบบนางแบบ ที่เค้าต้องคอยอวดหุ่นผอมเพรียวซึ่งเหมือนเป็นเครื่องยืนยันว่า ผอมแล้วมีชื่อเสียง คนให้ความสนใจ มีแต่คนชื่นชม และประสบความสำเร็จ จึงเกิดเป็นพฤติกรรมเลียนแบบขึ้นค่ะ

การประกอบอาชีพ

เราจะเห็นได้ว่า คนที่เป็นโรคบูลิเมีย หรือ โรคล้วงคอ จะพบได้ในคนที่มีอาชีพเป็นนางแบบ นักร้อง นักแสดง เนื่องจากภาพลักษณ์เป็นสิ่งที่สำคัญมากในสายอาชีพเหล่านี้ค่ะ การสวมใส่เสื้อผ้าเพื่อเดินแฟชั่นโชว์ ถ่ายแบบ ร้องเพลง เล่นหนังเล่นละคร จึงต้องออกมาดูดีนั่นเองค่ะ

อาการของโรคบูลิเมีย

จากนี้เดี๋ยวเราจะมาสังเกตดูอาการหรือพฤติกรรมของคนที่เป็นโรคบูลิเมีย หรือ โรคล้วงคอ กันดูนะคะว่า คนรอบตัวเราหรือแม้แต่ตัวเราเองเข้าข่ายเป็นโรคบูลิเมียหรือยัง ซึ่งโดยปกติแล้ว คนไข้ที่มีอาการของโรคบูลิเมียจะคอยหลบซ่อนหรือคอยปิดบังอาการไม่ให้คนรอบข้างรู้ และมักจะปลีกตัวออกจากสังคม โดยหมอมีวิธีสังเกตอาการของโรคบูลิเมีย ดังนี้ค่ะ

  • ปลีกตัวไปทานอาหารคนเดียว ไม่ให้คนเห็นว่าทานอะไร
  • ทานอาหารปริมาณมากอย่างรวดเร็ว
  • ชอบบ่นบ่อย ๆ ว่าตัวเองอ้วน
  • เข้าห้องน้ำหลังทานอาหารบ่อย เพื่อไปล้วงคอให้อาเจียน 
  • หมกมุ่นกับการออกกำลังกายอย่างหนักหักโหม
  • แอบใช้ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ ยาลดความอ้วน
  • ควบคุมการรับประทานอาหารไม่ได้ กินเยอะ
  • สภาวะทางอารมณ์เปลี่ยนแปลง เช่น โกรธ โมโห หงุดหงิดง่าย 
  • หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม หรือ อาจมีพฤติกรรมทำร้ายตัวเองร่วมด้วย

ภาวะแทรกซ้อนของโรคบูลิเมีย โรคล้วงคอ

คนไข้ที่ประสบกับปัญหา Eating Disorder โรคบูลิเมียมักได้รับผลกระทบที่ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจ มีตั้งแต่อาการเล็กน้อยจนนำไปสู่อันตรายต่อชีวิตได้เลยค่ะ ซึ่งผลแทรกซ้อนหรืออันตรายจากโรคบูลิเมียมีผลจากการได้รับสารอารที่ไม่ครบถ้วน จากการกินแล้วล้วงคอ รวมไปถึงการใช้ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ และยาลดความอ้วนเป็นประจำอีกด้วยค่ะ

  • ผิวพรรณแห้งเหี่ยวย่น
  • รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ
  • ผมร่วง เล็บไม่แข็งแรง หักง่าย
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนไม่มา
  • ปากแห้ง ต่อมน้ำลายอักเสบทำให้ใบหน้าดูบวม
  • มีแผลในกระเพาะอาหารเนื่องจากกรดจากกระเพาะอาหารที่เกิดจากการล้วงคออาเจียน
  • เยื่อบุหลอดอาหารและกระเพาะอาหารอาจฉีกขาด รวมไปถึงอาจมีเลือดออกในทางเดินอาหาร เนื่องจากการอาเจียนบ่อย ๆ
  • มีกลิ่นปาก ฟันผุ และปัญหาสุขภาพเหงือกและช่องปากอื่น ๆ เนื่องจากกรดในกระเพาะอาหารที่เกิดจากการกินแล้วล้วงคออาเจียน
  • ท้องผูก กล้ามเนื้อลำไส้ได้รับความเสียหาย เนื่องจากการใช้ยาระบายเป็นประจำ

การรักษาโรคบูลิเมีย

การรักษาโรคบูลิเมียหรือวิธีเลิกล้วงคอ ต้องรักษาทั้งร่างกายและจิตใจควบคู่กันไปค่ะ โดยต้องมีการรักษาโดยแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่มึความเชี่ยวชาญจากหลายสาขา อาทิ อายุรแพทย์ เพื่อรักษาอาการทางด้านร่างกาย, จิตแพทย์ เพื่อปรับทัศนคติที่มีต่อการทานอาหาร การลดน้ำหนัก, ทันตแพทย์ เพื่อรักษาอาการเกี่ยวกับฟันและช่องปาก, นักโภชนาการ เพื่อปรับหลักโภชนาการในอาหาร ซึ่งในบางครั้งจำเป็นต้องมีกุมารแพทย์ในกรณีที่คนไข้เป็นเด็กและวัยรุ่นค่ะ

โรคบูลิเมีย

จิตบำบัด

คนไข้ต้องเริ่มด้วยวิธีเลิกล้วงคอเสียก่อนค่ะ ดังนั้นจะต้องมีการปรับมุมมองที่มีต่อเรื่องน้ำหนักและรูปร่างที่ถูกต้อง รวมไปถึงเรียนรู้ถึงโทษภัยของโรคบูลิเมีย โดยในขั้นตอนของการใช้วิธีจิตบำบัด คนไข้จะถูกดูแลอย่างใกล้ชิดจากนักบำบัดหรือจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้วิธีจิตบำบัดกับคนไข้แล้ว ยังต้องมีการบำบัดแบบครอบครัวร่วมด้วย เพื่อให้คนใกล้ชิดและคนในครอบครัวรับทราบและเข้าใจปัญหาของคนไข้ ซึ่งครอบครัวเป็นส่วนช่วยเหลือและให้กำลังใจกับคนไข้ในระหว่างทำการรักษาโรคบูลิเมีย หรือ โรคล้วงคอค่ะ 

การใช้ยา

ในคนไข้ที่เป็นโรคบูลิเมีย แพทย์อาจพิจารณาให้คนไข้ใช้ยาต้านอาการซึมเศร้าควบคู่ไปกับการพูดคุยเพื่อบำบัดกับจิตแพทย์ ซึ่งจะเป็นการช่วยส่งเสริมในการรักษาโรคบูลิเมียในด้านของจิตใจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ปรับหลักโภชนาการ

นักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญจะช่วยวางแผนการรับประทานอาหาร จัดสัดส่วนสารอาหารที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้คนไข้โรคบูลิเมียกลับมามีน้ำหนักตัวที่เป็นปกติ โดยสอดคล้องกับความสมดุลของค่าดัชนีมวลกาย BMI ของคนไข้ค่ะ

การรักษาผลข้างเคียง

อาการต่าง ๆ ที่เป็นผลข้างเคียงของโรคบูลิเมีย อาทิ ปัญหาผิวพรรณ, สุขภาพช่องปากและฟัน, ระบบทางเดินอาหาร, ระบบการขับถ่าย ฯลฯ จำเป็นต้องได้รับการรักษาตามอาการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น ๆ ค่ะ 

ทางเลือกของคนอยากผอมอย่างปลอดภัย

เมื่อคนไข้ได้รับความรู้ การบำบัด รวมไปถึงการรักษาโรคบูลิเมียจนหายเป็นปกติแล้ว หมอแนะนำว่า หากคนไข้ยังมีความกังวลเรื่องน้ำหนักและรูปร่างอยู่ ให้เปลี่ยนมาใช้วิธีการดูแลเรื่องอาหารการกิน การควบคุมน้ำหนัก ด้วยการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารในรูปแบบต่าง ๆ อย่างเทรนด์การลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนักที่ได้รับความนิยม เช่น การทำ IF, การทานอาหารคีโต, การลดน้ำหนักแบบ Mediterranean Diet, Plaeo Diet, Atkins Diet ฯลฯ

อีกหนึ่งวิธีที่หมออยากจะแนะนำ นั่นก็คือ การนับแคลอรี่ เพื่อควบคุมปริมาณแคลอรี่ให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการใช้เป็นพลังงานในแต่ละวัน เป็นการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่หมอเองก็ใช้อยู่เหมือนกันค่ะ เมื่อมีการควบคุมไม่ให้แคลอรี่มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการแล้ว ร่างกายก็จะเผาผลาญได้หมด ไม่หลงเหลือสะสมไว้เป็นไขมันส่วนเกินค่ะ ถือว่าเป็นวิธีลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนักที่ยั่งยืน ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและมีรูปร่างที่สมส่วน

ที่ Amara Clinic หมอได้พบเจอกับคนไข้จำนวนไม่น้อยที่ต้องประสบกับปัญหาควบคุมอาหารไม่ได้ รวมไปถึงอยากลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องอดอาหารให้เกิดอันตราย หมอก็มีอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารอย่างปลอดภัย เป็นการใช้ปากกาลดน้ำหนัก Amara Pen ที่มีตัวยาออกฤทธิ์สั่งการให้สมองส่วนที่ควบคุมความหิว-ความอิ่ม ทำให้เราหิวน้อยลง ทานครั้งหนึ่งอยู่ท้องได้นาน โดยที่ไม่รู้สึกโหย ตัดปัญหาเรื่องการทานจุกจิก จนเมื่อเราทานอาหารได้น้อยลง น้ำหนักตัวก็ลดลงตามไปด้วยค่ะ รวมไปถึงคนที่ลดน้ำหนักได้ตามที่ต้องการแล้ว แต่ยังมีปัญหาไขมันส่วนเกินอยู่ก็สามารถปรึกษาหมอเรื่องกาดูดไขมันเพิ่มเติมได้เลยค่ะ

สนใจปากกาลดน้ำหนักดูดไขมัน ภายใต้การดูแลจากแพทย์ผู้ชำนาญการ

ดูรายละเอียด

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • ลดน้ำหนักแบบกำหนดเวลา “อด-กิน” เป็นอย่างไร ติดตามอ่านได้ที่ อาหารคีโตคืออะไร
  • กินอาหารตามคนยุคหิน ลดน้ำหนักได้จริง! ติดตามอ่านได้ที่ Paleo Diet
  • ลดน้ำหนัก+สุขภาพหัวใจดี ด้วยวิธีนี้! ติดตามอ่านได้ที่ Mediterranean Diet 
  • การกินแบบลดคาร์บ Low Crab ลดน้ำหนักสุดเวิร์ค! ติดตามอ่านได้ที่ Atkins Diet

สรุป

          โรคบูลิเมีย หรือ โรคล้วงคอ เป็นโรคที่ส่งผลอันตรายร้ายแรงต่อร่างกายและจิตใจ ถ้าหากไม่ได้รับการบำบัดและรักษาอย่างถูกต้อง นานวันเข้าระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกายก็จะล้มเหลวและพังไม่เป็นท่า จนถึงขั้นเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้เลยนะคะ ผอมจริงแต่เสี่ยงตาย หมอว่ามันไม่คุ้มกันค่ะ ทางที่ดีหากต้องการจะลดน้ำหนักและดูแลรูปร่าง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุดค่ะ เพื่อสุขภาพที่ดีควบคู่ไปกับเรือนร่างและผิวพรรณที่สวยงามสมวัยได้อย่างยั่งยืนค่ะ

สำหรับใครที่สนใจลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยภายใต้การดูแลจากแพทย์ผู้ชำนาญการ สามารถเข้ามาพูดคุยและปรึกษาได้ที่ Amara Clinic หรือตามช่องทางต่าง ๆ ด้านล่างค่ะ

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่
สาขารัชโยธิน 062-946-2397
สาขาราชพฤกษ์ 062-556-6623
สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic

KOL Trainer
แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

พญ.กรพร สถิตวิทยานันท์ (หมอมะปราง)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย