รู้ก่อนตัดสินใจ! การดูดไขมัน (Liposuction) คืออะไร?

ดูดไขมัน (Liposuction)

         บทความนี้จะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูดไขมันให้กระจ่าง ก่อนตัดสินใจทำในปี 2024 นี้ ใครที่อยากหุ่นดีทางลัด หมอขอชวนมาทำความเข้าใจว่า “ดูดไขมันคืออะไร?” ทำไมจึงถือเป็นหนึ่งในศัลยกรรมที่คนทั่วโลกทำมากที่สุด และ AMARA ก็เป็นหนึ่งในศูนย์ให้บริการที่มีเคสเยอะที่สุดในไทย ครบครันด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยระดับโลก! 

แต่ว่าการลดไขมันด้วยวิธีนี้มันดีจริงไหม? แล้วเหมาะกับใครบ้าง? มีความเสี่ยงอะไรที่ต้องระวัง ก่อนตัดสินใจทำต้องเช็กเรื่องอะไรบ้าง เลือกคลินิกไหนดี? พร้อมอัปเดตเทคนิคใหม่จาก “หมอไอซ์” AMARA Liposuction Center รวมไว้แล้วที่นี่!

เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจ ได้ที่นี่เลยค่ะ

การดูดไขมัน คืออะไร?


ดูดไขมัน คืออะไร      

 การดูดไขมัน (Liposuction) คือวิธีกำจัดส่วนเกินหรือไขมันที่ไม่ต้องการ ด้วยการใช้เครื่องดูดไขมันสลายไขมันใต้ชั้นผิวหนังในตำแหน่งต่าง ๆ เช่น บริเวณหน้าท้อง, ต้นแขน, ต้นขา หรือเหนียง เป็นต้น ทำให้สัดส่วนเล็กลงอย่างรวดเร็ว เพิ่มความมั่นใจให้กับคนที่มีปัญหารูปร่าง

     ในปัจจุบัน การลดหุ่นด้วยวิธีนี้จึงได้รับความนิยมอย่างมาก และถูกจัดให้เป็นหัตถการที่มีคนทำมากที่สุดในโลกประจำปี 2023 อ้างอิงจากผลสำรวจ สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (ISAPS

     การกำจัดไขมันแบบทางลัดนี้ จึงเหมาะกับผู้ที่ออกกำลังกายและคุมอาหารแล้วสัดส่วนไม่ลด (หรือที่เรียกว่าภาวะไขมันดื้อ : Stubborn Fat) รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกินเฉพาะจุด มีปัญหารูปร่างไม่สมส่วน นอกจากนี้ด้วยความก้าวหน้าทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้คุณสามารถสร้างมัดกล้ามเนื้อเลียนแบบได้แนบเนียนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ร่อง 11 หรือ ซิกแพค

AMARA TIP: ผู้ที่ต้องการลดหุ่นด้วยวิธีนี้จะต้องมีร่างกายที่แข็งแรงพร้อมสำหรับการผ่าตัด ไม่มีภาวะที่เสี่ยงต่อการทำศัลยกรรม ดังนั้นก่อนการผ่าตัดที่ AMARA จะมีการตรวจเลือดและเช็กสุขภาพให้ก่อนทุกเคส

จุดประสงค์ของการดูดไขมัน ไม่ใช่การลดน้ำหนัก! 

        จุดประสงค์มีเพื่อ “ลดไขมันและลดสัดส่วน” ไม่ใช่วิธีลดน้ำหนัก เพราะหลังทำน้ำหนักจะลงไปได้แค่ 1-5 กก.เท่านั้น (เนื่องจากไขมันมีน้ำหนักเบามาก เมื่อดูดออกจึงไม่ส่งผลต่อน้ำหนักมากนัก) ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักจึงควรเลือกทำ IF ควบคู่กับการออกกำลังกาย หรือจะใช้ปากกาลดน้ำหนักก็ได้เช่นกัน อ่านเพิ่ม…ปากกาลดน้ำหนัก AMARA

ดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนัก

ข้อดี-ข้อเสียของการดูดไขมัน

ข้อดีของการดูดไขมัน

  • สัดส่วนเล็กลงในทันที ลดไขมันสะสมเฉพาะจุดได้ดี
  • ช่วยลดขนาด Size เสื้อผ้าลง
  • ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ
  • ช่วยให้เคลื่อนไหวร่างกายสะดวกขึ้น
  • ช่วยให้แต่งตัวง่ายขึ้น ใส่ชุดไหนก็ดูดี
  • ช่วยให้หุ่นเป๊ะขึ้นกว่าเดิม
  • เอาไขมันไปเติมส่วนที่ขาดได้ (เครื่อง body-jet)

ข้อเสียของการดูดไขมัน

  • ไม่สามารถลดน้ำหนักตัวได้เยอะ
  • ไม่สามารถลดไขมันในช่องท้องได้
  • อาจรู้สึกเจ็บ ระหว่างทำได้
  • มีอาการเจ็บ บวมช้ำ หลังทำ
  • ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น
  • มีโอกาสที่จะเกิดผิวเป็นคลื่น ก้อนแข็งก้อนไต (หากรับบริการกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ)
  • อาจเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย

ดูดทิ้ง VS ดูดเติม ต่างกันอย่างไร

          การดูดทิ้ง เป็นการสลายไขมันด้วยเครื่องที่ใช้พลังงานความร้อนในการทำให้ไขมันแตกตัว ได้แก่ Vaser หรือ BodyTite เป็นต้น ซึ่งความร้อนนี้จะทำให้เนื้อเยื่อที่เกาะตัวกันแน่นสลายกลายเป็นน้ำมันเหลว ๆ บางส่วน ซึ่งนับเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว ไม่สามารถนำมาเติมต่อได้ ต้องทิ้งเท่านั้น จึงเรียกว่า ‘การดูดทิ้ง’

          การดูดเติม เป็นการสลายไขมันด้วยเครื่องที่ไม่ก่อให้เกิดพลังงานความร้อน ได้แก่ Body-Jet หรือ MicroAire ซึ่งจะทำให้ไขมันแตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ โดยที่เซลล์ไขมันยังมีชีวิตอยู่ สามารถนำไปเติมไขมันต่อได้ จึงเรียกว่า ‘การดูดเติม’

          ดังนั้น ความแตกต่างระหว่างการดูดทิ้งและดูดเติม จึงอยู่ที่จุดประสงค์ในการทำมากกว่าว่าเราต้องการดูดเอาไขมันออกเฉย ๆ หรืออยากเอาไขมันไปเติมสัดส่วนบริเวณต่อด้วย

ประเภทของการดูดไขมัน

       วิธีดูดไขมัน มีกี่แบบ? หัตถการนี้จะแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลัก ๆ คือ “การดูดทิ้ง” และ “การดูดเพื่อนำไขมันไปเติมต่อ” โดยทั้งสองวิธีมีรายละเอียด ดังนี้

  1. ดูดทิ้ง : เหมาะกับคนที่ต้องการลีนไขมันอย่างเดียว

    สลายไขมันด้วยเครื่องกลุ่มความร้อน เช่น Vaser,  BodyTite เป็นต้น ไขมันที่ได้เป็นน้ำมัน นำไปเติมต่อไม่ได้ต้องทิ้งอย่างเดียว 

  2. ดูดเติม : เหมาะกับคนที่ต้องการลดสัดส่วน และนำไขมันไปเติมต่อ

    สลายไขมันด้วยเครื่องที่ไม่ก่อให้เกิดความร้อน เช่น  Body-jet, MicroAire ไขมันที่ได้ยังคงมีชีวิตอยู่ สามารถนำไปกรองและเติมส่วนอื่น ๆ บนร่างกายต่อได้ อ่านเพิ่ม…เติมไขมันดีไหม

ดูดไขมันเหมาะกับใคร? และผู้ที่ควรหลีกเลี่ยง

ผู้ที่ทำหัตถการได้  : 

  • ผู้ที่มีไขมันใต้ชั้นผิวหนังสะสมเยอะ โดยสังเกตจากก้อนไขมันที่ปลิ้นออกมาจนบีบจับได้ 
  • ผู้ที่มีสัดส่วนที่ไม่สมดุล เช่น ช่วงลำตัวเล็กแต่ต้นขาใหญ่จนเบียด หรือ คนที่ช่วงเอวตรงทำให้หุ่นดูไม่มีส่วนเว้าโค้ง
  • ผู้ที่มีค่า BMI ปกติแต่ลดน้ำหนกด้วยการออกกำลังกายหรือคุมอาหารแล้วแต่หุ่นไม่ลด 
  • ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อ หรือโรคร้ายแรงที่ส่งผลต่อการผ่าตัด
  • ผู้ที่ขาดความมั่นใจในรูปร่างของตนเอง 

ผู้ที่ไม่ควรทำหัตถการ : 

  • ผู้ที่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจ
  • ผู้ที่เป็นโรคเส้นเลือดสมอง
  • ผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานที่ยังควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้
  • ผู้ที่เป็นโรคไทรอยด์ที่ยังควบคุมระดับไม่ได้

          และอีกกรณีหนึ่งคือเคสที่มีผิวย้วยมาก ในกรณีอาจจะต้องใช้วิธีผ่าตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck) หรือยกกระชับสัดส่วนด้วยพลังความร้อนสูง ๆ อย่าง J Plasma ควบคู่ไปกับการดูดเซลล์ไขมันแทนได้ครับ

อายุส่งผลต่อผลลัพธ์หลังดูดไขมันไหม


       อายุส่งผลต่อการดูดไขมันไหม เรื่องนี้หมอต้องขอบอกอย่างจริงใจเลยว่าส่งผลแน่นอนครับ โดยธรรมชาติแล้วเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น คอลลาเจนในร่างกายของเราจะลดน้อยลง ทำให้ผิวเสียความยืดหยุ่น เมื่อคนไข้ที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปมาทำย่อมมีโอากาสที่จะเกิดผิวยับหลังทำได้ 

       แต่เพื่อให้คนไข้ของ AMARA ทุกคนได้ทั้งหุ่นที่ดีขึ้นและผิวที่กระชับแบบโกงอายุได้ หมอจึงมีเทคโนโลยีเสริมหลายตัวที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาผิวเหล่านี้ อาทิ เครื่อง Morpheus8, เครื่อง J-Plasma ที่เป็นราชาแห่งการกระชับผิวหลังดูดไขมัน ดังนั้นใครที่อายุ 40 + แล้วอยากทำให้ออกมาสวยย่อมเกิดขึ้นได้จริงแน่นอนครับ 

“หุ่นสวยไม่เลือกอายุ! ดูดไม่ย้วย = AMARA”

ตัวอย่างก่อน-หลังทำเคสอายุ 40 ปี

“อายุไม่ใช่ปัญหา ปั้นหุ่นสวยที่ AMARA
ได้ทั้งสวยและปลอดภัย”

ดูดไขมันสายฝอ VS. สายเกาหลีต่างกันอย่างไร


      สาว ๆ ที่ต้องการดูดไขมันถ้าไม่นิยมแบบสายฝอแบบ คิม คาร์เดเชียน หรือ ไคลี่ ก็ต้องมาทางสายเกาแบบลิซ่ากันอยู่เสมอเลยครับ ซึ่งการดูดแบบนี้หมอจะเรียกว่า “ดูดไขมันแบบสายฝอ” กับ “ดูดไขมันแบบสายเกา”

ดูดไขมันแบบสายฝอ

      ซึ่งทั้งสองสไตล์นี้มีความแตกต่างกันอยู่หลายจุดเลยครับ โดยแบบสายฝอจะเน้นเอวคอด ๆ สะโพกผาย เซ็กซี่ไลน์ชัด ๆ และมักเติมไขมันก้นเด้งเข้าไปด้วย เพื่อให้ได้รูปร่างที่ดูเซ็กซี่ตามสไตล์สาวสายฝอ ยกตัวอย่างเคสคุณเบลล์ที่เข้ามาดูดไขมันที่ AMARA ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้

       จากภาพด้านบนจะเห็นความแตกต่างของก่อนและหลังทำได้อย่างชัดเจนเลยใช่ไหมครับ ด้วยความที่ AMARA เราใช้เทคนิคปั้นหุ่น Advanced LipoSculpt 4D ที่จะเน้นการสร้างกล้ามเนื้อเสมือนจริง ช่วยให้คุณเบลล์มี Sexy Line ชัด ๆ แบบสาวสายฝอ และเหลาเอวเอสให้คอดเพื่อเน้นช่วงสะโพกให้ผายขึ้น พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัยทำให้เคสแบบสายฝอออกมาสวยอย่างเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

ดูดไขมันแบบสายเกา

       ในส่วนของการดูดแบบสายเกาจะเน้นการสร้างรูปร่างที่ดูผอมเพรียว ต้นแขนเรียวสวย ขายาวเพรียว เอวบาง แต่สะโพกจะไม่ผายมากนักมีแค่พอให้รูปร่างดูสมส่วนเท่านั้น ซึ่งวันนี้หมอขอยกตัวอย่างจากเคสของ AMARA ให้คุณได้เห็นภาพชัดยิ่งขึ้น

      อย่างเรฟที่คนไทยนิยมยื่นให้หมอมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นลิซ่า Blackpink นั่นเองครับ ซึ่งตำแหน่งที่ดูดที่นิยมในกลุ่มสาว ๆ สายเกาก็คือต้นขา ต้นแขน แล้วก็หน้าท้องครับ ในเคสที่ต้องความเกาแบบสุด ๆ ก็จะมีการเติมไขมันหน้าเด็กร่วมด้วยครับ

ตำแหน่งดูดไขมัน ทำจุดไหนได้บ้าง?


ตำแหน่งดูดไขมัน

เหนียง คอ กรอบหน้า 

        ช่วยลดเหนียงใต้คาง แก้คางสองชั้น ปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น สร้างมิติให้กับใบหน้ามากยิ่งขึ้น โดยใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน แต่กำจัดไขมันได้อย่างตรงจุด แนะนำให้ใช้เป็นเครื่อง ACCUtite (ในเคสที่มีผิวย้วยหนักควรใช้ J Plasma ในกระชับผิวเพิ่ม)

ดูดไขมันเหนียง

หน้าท้อง

       ช่วยลดไขมันหน้าท้อง แก้ปัญหาพุง พร้อมสร้างร่อง 11 และซิกแพคได้ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งบริเวณหน้าท้องถือเป็นตำแหน่งยอดฮิตที่คนทำมากที่สุด

ดูดไขมันหน้าท้อง

ต้นแขน

        ช่วยลดไขมันใต้ท้องแขน และเหลาแขนให้เรียวสวย ลดปัญหาต้นแขนตันได้อย่างเห็นผล ในเคสที่มีนมน้อยสามารถทำบริเวณใต้รักแร้หรือผ่าตัดนมน้อยร่วมกับการดูดต้นแขนได้

ดูดไขมันต้นแขน

เอวเอส-ปีกหลัง

        ช่วยลดไขมันรอบเอวและบริเวณปีกหลัง แก้ปัญหาห่วงยางแบบ 360 องศา พร้อมเหลาเอวให้คอดสวยยิ่งขึ้น ทำให้ลำตัวดูบางลง และเพื่อความสมดุลของลำตัวจึงมีการเก็บไขมันบริเวณปีกหลังไปพร้อม ๆ กันด้วย

ดูดไขมันเอวเอส

ต้นขาด้านใน-ด้านนอก

        ช่วยลดปัญหาต้นขาใหญ่ แก้ขาเบียด ขาไม่เท่ากัน โดยจะทำทั้งบริเวณต้นขาด้านในและด้านนอก ทำให้ขาเรียวสวยเท่ากัน มีความสม่ำเสมอของสัดส่วน

ดูดไขมันต้นขา

ดูดไขมันผู้ชาย

        ช่วยแก้ไขปัญหาส่วนเกินของคุณผู้ชายโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น พุงเบียร์ หรือ อ้วนลงพุงก็สามารถปรับให้แบนราบขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีการสร้างร่องซิกแพคได้อีกด้วยครับ

ดูดไขมันผู้ชาย amara clinic

ดูดไขมันทั้งตัว

        ช่วยกำจัดไขมันทั้งตัวในคราวเดียว ไม่ว่าจะเป็น เหนียง ต้นแขน หน้าท้อง ต้นขา ทำให้หุ่นเล็กลงในทุกส่วน แต่ทั้งนี้ หากทำทั้งตัวอาจต้องแบ่งดูดเป็น 2 รอบ ในเคสที่เป็นเคสพลัสไซซ์ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และป้องกันร่างกายเสียน้ำเยอะเกินไป

ดูดไขมันทั้งตัว

หมายเหตุ: การดูดเซลล์ไขมันในบริเวณต่าง ๆ จะต้องใช้เทคนิคและเครื่องมือที่เหมาะกับปริมาณไขมัน การเกาะตัวของพังผืด และส่วนเว้าโค้งของสรีระ เพื่อให้แพทย์สามารถสลายไขมันได้อย่างเฉพาะจุดและเห็นผลลัพธ์ที่สวยงาม

ขั้นตอนการดูดไขมัน


          ขั้นตอนของทุกตำแหน่งมีทั้งหมด 3 ขั้นตอน คือ การใส่ Tumescent > การแยกเซลล์ไขมัน > การดูดเซลล์ไขมันออกมา ซึ่งก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจว่าโครงสร้างชั้นไขมันของคนเรา จะประกอบไปด้วย ไขมัน, พังผืด และเส้นเลือด เส้นประสาท ก่อนที่เราจะดูดได้ เราจึงต้องทำให้ชั้นไขมันใต้ผิวเราเอื้ออำนวย ต่อการสลายไขมันได้ง่ายขึ้น และมีโอกาสที่จะกระทบต่อเส้นเลือดและเส้นประสาทน้อยที่สุด

3 ขั้นตอนการดูดไขมัน

  1. การใส่ Tumescent เพื่อขยายพื้นที่ ลดความเจ็บ และทำให้เสียเลือดน้อยลง โดยการทำให้เส้นเลือด เส้นประสาท ลอยอยู่ในน้ำ จึงช่วยลดการกระทบจากเข็มดูดลงได้ 
  2. การแยกเซลล์ไขมัน ขั้นตอนนี้จะแตกต่างกันไปตามเครื่องที่เลือกใช้ เช่น การใช้เครื่อง body-jet ก็จะใช้พลังงานน้ำฉีดเข้าไป เพื่อสลายเซลล์ไขมัน หรือการใช้เครื่อง Vaser หรือ Ultraz ที่ใช้การสั่นของพลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ในการสลายไขมัน เป็นต้น
  3. การดูดออกมาใส่ถังเก็บไขมัน หากเป็นเครื่อง body-jet ก็จะมีถังสำหรับใส่ไขมันทิ้ง และถังสำหรับใส่ไขมันเพื่อนำไปเติมเต็มต่อ (ฉีดไขมัน)
ขั้นตอนดูดไขมัน (Liposuction)

‘TUMESCENT’ ตัวช่วยที่ทำให้ปลอดภัยขึ้น

Tumescent คืออะไร?

  • Tumescent คือ สิ่งที่ช่วยให้ดูดได้ง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงต่าง ๆ ลงได้ เมื่อเทียบกับในสมัยก่อน โดย Tumescent จะประกอบไปด้วย ยาชา, น้ำเกลือ, ยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว หรือที่เรารู้จักในชื่อ Adrenaline, ตัวยาอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก
  • หลังจากที่ใส่ Tumescent แล้ว ช่องว่างในชั้นไขมันจะเพิ่มขึ้น เส้นเลือดหดตัวลง และทำให้เส้นเลือดกับเส้นประสาท ลอยอยู่ในน้ำ จึงช่วยลดความเสี่ยงโดนเข็มดูดลงได้ครับ

ข้อดีของการใส่ Tumescent 

  • จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บระหว่างผ่าตัด, ช่วยให้เสียเลือดน้อยลง, ลดโอกาสที่จะเกิด Fat embolism (ภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือดขณะผ่าตัด) ได้ จึงทำให้ในปัจจุบันมีอันตรายลดน้อยลงกว่าสมัยก่อนมาก
TUMESCENT

ไขมันส่วนไหนลดยากที่สุด

          โดยทั่วไป บริเวณที่เราสามารถลดไขมันด้วยตัวเองได้ยากที่สุดคือ หน้าท้อง, ต้นแขน และต้นขาครับ แม้จะสามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกายหรือคุมอาหาร แต่ก็ต้องใช้เวลาและความมีวินัยสูง การผ่าตัดสลายไขมันจึงมีประสิทธิภาพมากกว่า หากต้องการประหยัดเวลาและเก็บสัดส่วนได้เป๊ะขึ้น

แผลดูดไขมันอยู่ตรงไหน? แผลใหญ่เท่าไหร่?


        สำหรับการเปิดแผลเพื่อดูดไขมันที่ AMARA เราใช้เทคนิคซ่อนแผล ขนาดของแผลใหญ่ไม่เกิน 3 มม. หรือเทียบเท่าจุดของปากกาเลยครับ โดยการดูดในแต่ละตำแหน่งก็จะเปิดแผลแตกต่างกันไปตามจุดที่ดูดไขมัน ดังนี้  แผลหลังดูดไขมัน

  • เหนียง กรอบหน้า : แผลอยู่บริเวณใต้คาง
  • หน้าท้องบน : แผลอยู่ตรงใต้ราวนม 
  • หน้าท้องล่าง : แผลอยู่บริเวณแนวบิกินี่ไลน์ หรือ ใต้ขอบการเกงใน 
  • ต้นแขนด้านใน-ด้านนอก : แผลอยู่บริเวณเหนือข้อศอก ในบางเคสอาจเปิดใต้รักแร้เพิ่ม 
  • ต้นขาด้านใน-ด้านนอก : แผลอยู่บริเวณต้นขาด้านหน้าและด้านหลัง

เหงื่อออกเยอะ! หลังดูดไขมันควรดูแลแผลอย่างไร?


       สำหรับคนที่เป็นคนเหงื่อออกง่ายโดยเฉพาะคุณผู้ชาย ดูแลแผลยังไงให้แผลแห้งไว ไม่อับชื้น ไม่ติดเชื้อ หมอแนะนำว่าให้มั่นทำแผลเป็นประจำ เพราะในการดูดไขมันเราจะมีการใส่สารน้ำเข้าไป หลังผ่าตัดจึงมีน้ำส่วนนี้ไหลออกมาปะปนกับเหงื่อได้ ดังนั้นการทำแผลจึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและห้ามละเลยนะครับ 

      และหากว่าต้องการอาบน้ำหลังดูดไขมัน สามารถทำได้โดยปิดพลาสเตอร์กันน้ำเพื่อป้องกันน้ำโดนแผล หลังจากอาบน้ำเสร็จควรเปลี่ยนใหม่ เท่านี้แผลก็จะแห้งไวและสมานกันได้ดีครับ โดยในเคสที่ทำกับ AMARA เราจะมีบริการนี้รวมอยู่ใน After Care ทั้งอุปกรณ์ทำแผล บริการทำแผล และทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา

แผลหายไว ไม่บวมนานด้วย After Care 5 Stars

เครื่องดูดไขมันแต่ละแบบต่างกันยังไง? เลือกเป็นยิ่งสวย


      ใครที่เพิ่งเข้าวงการ คงจะสงสัยว่าทำไมมีเครื่องดูดไขมันเยอะจัง? แต่ละเครื่องมีความแตกต่างกันตรงไหน? แล้วตัวเราล่ะ เหมาะกับเครื่องพลังงานไหนกันแน่? สมัยก่อนก็จะมีแค่การใช้แรงมือแพทย์ ไม่มีการใช้เครื่องใด ๆ แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีทางการแพทย์ก็ก้าวไกลขึ้น มีการนำพลังงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยสลายไขมัน ลองไปทำความรู้จักเครื่องมือเหล่านี้กันดีกว่าว่ามีข้อดี ข้อเสีย ยังไงบ้าง!

“เครื่องดูดไขมันเปรียบเสมือนพู่กันของศิลปิน หากใช้ไม่ถูกกับงานศิลป์ที่จะสร้าง ย่อมส่งผลต่อความสวยงามของผลลัพธ์”

เปรียบเทียบเครื่องดูดไขมัน

เครื่อง Body-jet

      Body-jet สลายไขมันไปในรูปแบบใบพัด (Fan Shape) เพื่อทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว ความเจ็บระหว่างสลายไขมันน้อยมากครับ เสียเลือดน้อยที่สุด นำเซลล์ไขมันไปเติมเต็มบริเวณอื่นของร่างกายได้

  • ข้อดี – สลายไขมันอย่างอ่อนโยน ไขมันยังมีชีวิตนำไปเติมต่อได้ ลดความบวมช้ำหลังทำ พักฟื้นไม่นาน
  • ข้อเสีย – ใช้เวลาในการสลายไขมันนาน

เครื่อง VASER Smooth 2.2

      เครื่องดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2 ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการสลายไขมัน ใช้เวลาไม่นานแต่ดูดออกมาได้เยอะ เหมาะสำหรับใช้ในเคสที่ดูดแบบทิ้ง เคสพลัสไซซ์ และเคสผู้ชายที่มีชั้นไขมันและงพังผืดหนา 

  • ข้อดี – สลายไขมันได้อย่างรวดเร็ว ดูดไขมันออกมาได้เยอะ 
  • ข้อเสีย – ไขมันแตกตัวเป็นน้ำมันไม่สามารถนำไปเติมต่อได้ 

เครื่อง Ultra Z

      เครื่อง Ultra Z เป็นอีกเครื่องที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการแยกเซลล์ไขมัน เช่นเดียวกับเครื่อง VASER แต่จะแตกต่างที่พลังงานของตัวเครื่องที่น้อยกว่า จึงเหมาะกับคนตัวเล็ก ชั้นไขมันไม่หนามาก แต่มีส่วนเกินแล้วต้องการกำจัดออก ไม่ทำให้ผิวไหม้แม้ชั้นไขมันจะบาง 

  • ข้อดี – ช่วยสลายไขมันได้ดีในเคสตัวเล็ก ไม่ทำให้ผิวไหม้ ผิวยับ 
  • ข้อเสีย – ไม่สามารถนำไขมันไปเติมต่อได้ 

เครื่อง MicroAire PAL

      เครื่อง MicoAire PAL เป็นเครื่องพลังงานกล ไม่ก่อให้เกิดความร้อน โดยใช้พลังงานการสั่นของเข็ม 4,000 รอบต่อนาที ช่วยเสริมให้การดูดไขมันมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทำให้ที่ AMARA นิยมนำเครื่องนี้มาใช้ในการดูดไขมันรวมกับเครื่องดูดชนิดอื่น ๆ และยังสามารถใช้สร้างร่อง 11 และซิกแพคให้ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นได้ 

  • ข้อดี – สลายไขมันในตำแหน่งที่เข้าถึงยากได้ดี ช่วยเสริมให้ผลลัพธ์หลังดูดไขมันออกมาเป็นธรรมชาติขึ้น 
  • ข้อเสีย – เกิดความบวมช้ำสูงไม่นิยมนำมาดูดเป็นเครื่องหลัก 

เครื่อง BODYtite Pro 

      เครื่อง BODYtite Pro เป็นเครื่องที่ช่วยดูดไขมันและกระชับผิวไปพร้อมกัน ด้วย Handpieces ที่มีสองฟังก์ชั่นการทำงาน ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ RF ในการสลายไขมันและกระชับผิว แต่ด้วยอุณหภูมิของตัวเครื่องที่ทำงานอยู่ที่ 40-60 องศา ทำให้หลังทำเห็นผลได้ดีแค่ในเคสที่มีไขมันไม่เยอะและผิวย้วยเล็กน้อยเท่านั้น 

  • ข้อดี – สลายไขมันและกระชับผิวไปพร้อมกันได้ 
  • ข้อเสีย – เห็นการเปลี่ยนแปลงไม่ชัดเจน ไม่เหมาะกับเคสที่มีไขมันหนา หรือ คนที่ต้องการทำร่อง 11

ดูดไขมันเทคนิค Triple Machine Combination
เหลาหุ่นสวยด้วย 3 เครื่องดูดไขมันระดับ TOP!

เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ใน 1 เคส Amara Liposution Center ใช้เครื่องดูดไขมัน 3 เครื่อง 3 พลังงานในการสลายไขมัน พร้อมปั้นหุ่นสวยอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

ดูดไขมันเทคนิค Triple Machine Combination

1) Body-jet สลายไขมันด้วยพลังงานน้ำ บวมน้อย ช้ำน้อย พักฟื้นไม่นาน ที่สำคัญไม่ก่อให้เกิดความร้อน ผิวจึงไม่ไหม้ระหว่างดูดไขมัน โดยจะใช้เครื่องนี้ในสัดส่วน 60-80% ของสัดส่วนที่ดูด

2) Vaser Smooth 2.2 ใช้เครื่องนี้ประมาณ 10-20% ของสัดส่วนที่ดูด โดยเลือกใช้ในตำแหน่งที่มีไขมันหนา มีพังผืดเยอะ ไม่ใช่ตำแหน่งที่ไขมันน้อย เพื่อป้องกันผิวไหม้ พังผืด และ seroma

3) MicroAire PAL ใช้เครื่องนี้ประมาณ 10-20% ของสัดส่วนที่ดูด เลือกใช้ในตำแหน่งที่เก็บยาก ท่อดูดไขมันทั่วไป เข้าไปสลายไขมันไม่ถึง สลายไขมันด้วยพลังงานกลไม่เกิดความร้อน ลดการเกิด seroma

ดูดไขมันผิวไม่ย้วย ด้วย J Plasma ที่สุดนวัตกรรมกระชับผิว!

J-Plasma

          การดูดไขมันแล้วเสริมด้วยการทำ J Plasma จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์หลังทำสวยชัดเจนมากขึ้น, ร่างกายฟื้นฟูเร็วขึ้น, ลดปัญหาผิวย้วย ผิวหย่อนคล้อนได้อย่างตรงจุด, ลดเวลาการใส่ชุดกระชับ, ผิวกระชับเรียบตึงทันทีหลังทำ, ได้ผลลัพธ์ 80% ของการผ่าตัดหนังหน้าท้อง และสามารถทำได้หลายบริเวณที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเลยครับ           

J Plasma (เจพลาสมา) เป็นเครื่องยกกระชับผิว กระชับสัดส่วน โดยเฉพาะ ไม่ใช่เครื่องดูดไขมันแต่อย่างใด เหมาะกับการใช้ควบคู่ไปกับการดูดไขมัน ซึ่งเครื่อง J Plasma เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวใหม่ล่าสุดและดีที่สุดจากอเมริกา มีมาตรฐานและราคาต้นทุนเครื่องค่อนข้างสูง จึงทำให้มีคลินิกไม่กี่แห่งเท่านั้นที่มีเครื่องนี้           

โดย Amara Clinic เรามีเคสยกกระชับสัดส่วน ด้วย J Plasma เยอะที่สุดทั้งทวีปเอเชียและในระดับโลก! จึงเชื่อมั่นได้ว่าการแก้ปัญหาผิวย้วย ผิวยับ คืองานถนัดของเราเทียบเท่ากับการดูดไขมัน

รู้จัก “Liposuction Cannulas” ตัวช่วยปั้นหุ่นเป๊ะ


หัวดูดไขมันที่ AMARA

        สำหรับหัวดูดเก็บไขมัน (Liposuction Cannulas) ถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ผลข้างเคียงน้อยลง หากเลือกใช้หัวดูดที่เหมาะสมกับตำแหน่งและเป้าหมายในการทำ ที่ AMARA จึงมีหัวดูดมากถึง 14 รูปแบบ เพื่อให้ปัญหาส่วนเกินที่คุณมี ถูกกำจัดออกอย่างตรงจุดแต่ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตราย โดย Liposuction Cannulas แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ด้วยกัน ดังนี้

หัวดูดไขมัน (Liposuction Cannulas) แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ด้วยกัน ดังนี้ 

  1. Harvesting (หัวดูดไขมันสำหรับเก็บเซลล์ไขมัน)

หัวดูดไขมัน Harvesting        
       คือหัวดูดที่ใช้ในการดูดเพื่อเก็บเซลล์ไขมัน มีความอ่อนโยนในการเก็บไขมัน ทำให้แพทย์สามารถเก็บไขมันที่มีชีวิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับเคสที่ต้องการนำไขมันไปใช้งานต่อ

  • Multi-Hole Cannulas (ดูดและเก็บไขมันได้ 360 องศา) 
  • Del Vecchio Track-12 Cannulas (ดูดและเก็บไขมันได้ 270 องศา)

2. Specialty (หัวดูดไขมันสำหรับซอกซอนในจุดที่เข้าถึงยาก)

หัวดูดไขมัน Specialty          
         คือหัวดูดตำแหน่งที่เข้าถึงยาก เช่น บริเวณคอ แผ่นหลัง น่อง และหน้าอก (เคสที่มีภาวะ Gynecomastia) หัวดูดชนิดนี้จะช่วยยกระดับความสวยงามของผลลัพธ์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ก่ออันตรายหรือกระทบกับเส้นเลือดและเส้นประสาท

  • Helixed Tri-Port III Cannulas (ใช้สำหรับดูดหน้าอกเคสที่มีภาวะ Gynecomastia)
  • Spatula Cannulas (ใช้สำหรับดูดบริเวณคอและแผ่นหลัง)
  • Flared Mercedes Cannulas (ปั้นและเหลาสัดส่วนให้สวยขึ้น)
  • Bent Cannulas (เหลาสัดส่วนในตำแหน่งที่เข้าถึงยาก)
  • Turbo Cannulas (ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ดูดได้รวดเร็วขึ้น)

3.High Definition (หัวดูดไขมันช่วยในการปั้นหุ่น สร้างไลน์กล้ามเนื้อ)

หัวดูดไขมัน High Definition (HD

         ใช้สำหรับการดูดชั้นตื้น เช่น การทำซิกแพค ทำร่อง 11 และการดูดบริเวณหัวไหล่ เป็นต้น ด้วยลักษณะพิเศษของหัวดูดชนิด HD จะช่วยเหลาสัดส่วนให้มีความสวยงามเสมือนมีไลน์กล้ามเนื้อ ที่ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ซึ่งที่ AMARA เราเลือกใช้เป็นหัวดูด HD Cannulas


4.Extraction (หัวดูดไขมันใต้ผิวชั้นลึก)

ดูดไขมัน Extraction          
         หัวดูดนี้จะมีความโดดเด่นในเรื่องการสลายไขมันชั้นลึก ช่วยให้แพทย์เอาไขมันออกมาได้ปริมาณมาก ไม่ทำให้ผิวเป็นคลื่น เหมาะกับเคสที่ต้องการดูดทิ้ง ในส่วนของหัวดูด Extraction ที่ AMARA มีหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้แพทย์เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด

  • Single-Port Cannulas (หัวดูดทิ้งแบบ 90° สำหรับใช้ในตำแหน่งเล็ก)
  • Mercedes Cannulas (หัวดูดทิ้งแบบ 360°)
  • Double Mercedes Cannulas (หัวดูดทิ้งแบบ 360° ใช้ในตำแหน่งที่มีพังผืดเยอะ)
  • Mirrored Tri-Port II Cannulas (หัวดูดทิ้งแบบ 270° สามารถสอดเข้าใต้ผิวหนังได้)
  • Tri-Port II Cannulas (หัวดูดทิ้งแบบ 270° สามารถสอดเข้าใต้ผิวหนังได้)
  • Tri-Port III Cannulas (หัวดูดทิ้งแบบ 90° สามารถสอดเข้าใต้ผิวหนังได้

วิธีเตรียมตัวก่อนรับบริการที่ AMARA


  • เตรียมตัวด้านข้อมูล: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการดูดไขมัน เตรียมตัวรับมือกับผลข้างเคียง เช่น อาการบวมแดง ช้ำ ศึกษาประวัติของคลินิกที่ทำ
  • ตรวจสุขภาพ: ตรวจร่างกาย เช่น ค่าการแข็งตัวของเลือด ค่าการทำงานของตับและไต ปริมาณเกล็ดเลือด แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ทาน ประวัติการแพ้ ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและป้องกันความเสี่ยง
  • เตรียมตัวด้านร่างกาย: นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ สบาย ๆ
  • งดอาหารและเครื่องดื่ม: งดน้ำและอาหาร 8 ชั่วโมงก่อนผาตัด งดชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน ยาต้านการอักเสบ ก่อนเข้าห้องผ่าตัด
  • เตรียมตัวสำหรับการพักฟื้น : ควรหาคนดูแลและมารับหลังการผ่าตัด ไม่แนะนำให้ขับรถกลับเอง (ยกเว้นเคสดูดเหนียง ACCUtite) และควรลางานในช่วง 1-4 วันหลังการดูดไขมัน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นฟูอย่างเต็มที่
วิธีเตรียมตัวก่อนดูดไขมันยาชา
วิธีเตรียมตัวก่อนดูดไขมันยาสลบ

ก่อนดูดไขมัน ทำไม! ต้องโกนขนในที่ลับ! 

          หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าการดูดไขมันในบ้างตำแหน่งจำเป็นต้องกำจัดขนให้เรียบเรียน เช่น ขนในที่ลับ เพราะการที่มีเส้นขนทำให้การดูดไขมันอาจสะดุดได้ โดยเฉพาะผู้ที่ดูดบริเวณหน้าท้องและต้นขาด้านใน รวมทั้งเส้นขนเหล่านี้ยังอาจทำให้การดูแลแผลหลังทำมีปัญหาในเรื่องของความอับชื้นได้อีกด้วย ดังนั้นก่อนทำควรเตรียมพร้อมเรื่องนี้ด้วยนะครับ

@dr.icewisanu ต้องโกนมั้ย?! #เลเซอร์ #เลเซอร์ขน #แว๊กซ์กําจัดขน #โกนขน ♬ Hey Daddy Jungkook – ᴊᴋ


อาการหลังทำและภาวะแทรกซ้อน


  1. อาการหน้ามืด เวียนหัว คลื่นไส้ อยากอาเจียน – อาการนี้เกิดจากการใช้ยาชา/ยาสลบ และจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 24 ชม. 
  2. อาการบวม – ผิวหนังจะมีความบวมขี้นอย่างเห็นได้ชัด เกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อภายในร่างกาย 
  3. อาการปวด – ร่างกายจะรู้สึกปวดในจุดที่มีการดูด และจะค่อย ๆ ลดน้อยลงภายในช่วง 1-2 สัปดาห์
  4. อาการชา – พบได้ในช่วงแรกของการพักฟื้น อาการจะดีขึ้นได้ภายในช่วง 1-2 สัปดาห์
  5. อาการคัน – อาจพบได้เป็นระยะในช่วงของการพักฟื้น อาการจะลดน้อยลงเมื่อแผลเริ่มหายดี 
  6. อาการมีเลือดออกหรือน้ำเหลืองไหล – อาจมีเลือดออกหรือน้ำเหลืองไหลออกมาจากแผลเล็กน้อย ซึ่งที่เอมาร่าได้มีการดูแลอาการในจุดนี้ให้คนไข้ทุกเคส พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลแผลด้วยตัวเองที่บ้าน พร้อมมีบริการ After Care รายการอื่น ๆ มากกว่า 30 รายการ จึงช่วยบรรเทาอาการหลังผ่าตัดให้หายไวขึ้น
อาการแทรกซ้อนหลังดูดไขมัน

ภาวะแทรกซ้อนหลังดูดไขมัน

การติดเชื้อ

          การติดเชื้อหลังดูดไขมัน เกิดขึ้นได้น้อยมากในปัจจุบัน เพราะยาชาที่ใส่ใน Tumescent จะมีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งจะช่วยฆ่าเชื้อได้ส่วนหนึ่ง และการดูดไขมัน ก็ไม่ใช่หัตถการที่สกปรก มีการปนเปื้อนกับเชื้อน้อย จึงเกิดได้ยาก หากเกิดการติดเชื้อที่ไม่รุนแรง การทานยาฆ่าเชื้อก็เพียงพอแล้วครับ ทั้งนี้ก็ต้องดูว่า คลินิกมีมาตรฐานและให้ความสำคัญกับการฆ่าเชื้อมากแค่ไหน รวมไปถึงเครื่องมือที่ใช้ด้วยเช่นกัน

Seroma

          Seroma คือภาวะที่ร่างกายไม่ยอมให้มีช่องว่างเกิดขึ้นใต้ผิว จึงสร้างน้ำขึ้นมา เพื่อเติมเต็มช่องว่างหลังดูดเซลล์ไขมันออกไป ไม่มีอันตรายใด ๆ ถ้ามีน้ำสะสมน้อย ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้เอง และการสวมชุดกระชับก็สามารถช่วยได้ (ชุดกระชับหลังดูดไขมันยิ่งใส่ยิ่งดี และต้องใส่อย่างถูกวิธีด้วย) ถ้ามีน้ำสะสมเยอะ ก็จะต้องให้แพทย์ช่วยเจาะออกให้ ซึ่ง Seroma มักเกิดจากการเคสที่ใช้เครื่องกลุ่มความร้อน

ก้อนไตแข็ง

        อาการไตแข็งหรือก้อนแข็งที่ใต้ผิว เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น Seroma, ห้อเลือด และเกิดผังผืด ซึ่งโดยปกติแล้ว ก้อนแข็งหลังผ่าตัดจะค่อย ๆ นิ่มลงได้เอง และสามารถใช้วิธีอื่นเสริมได้ เช่นการสวมชุดกระชับ, การใช้เครื่อง Thermatight ใช้เครื่องนวดความร้อนเข้ามาช่วย เพื่อให้ก้อนแข็งนิ่มลงเร็วขึ้น และการประคบอุ่น เป็นต้น

ผิวเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบ

        กรณีที่ดูดไขมันผิวเป็นคลื่นบุ๋ม ไม่เรียบเสมอเท่ากัน เกิดได้ทั้งจากการที่แพทย์ดูดปริมาณไขมันเยอะเกินไป ดูดผิดตำแหน่ง และการดูแลตัวเองที่ผิดวิธีของคนไข้ ถ้าดูดแล้วผิวเป็นคลื่นบุ๋มไม่เยอะ ก็อาจจะทำการดูดแก้เพิ่มเติมได้ เพื่อเกลี้ยงให้เรียบเสมอกัน ถ้าผิวเป็นคลื่นเยอะ มีความเว้าเยอะ ก็จะใช้วิธีฉีดไขมันเข้าไป นอกจากนี้ หากเป็นคลื่นไม่มาก ก็สามารถใช้ชุดกระชับและนวดกระชับ RF เพื่อลดปัญหาคลื่นบุ๋มได้

วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน

การดูแลตัวเองหลังทำให้แผลหายไว หุ่นเข้าที่เร็ว คุณสามารถทำตามคำแนะนำ 10 ข้อปฎิบัติ ดังนี้  วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน

  1. ใส่ชุดกระชับวันละ 22 ชม. และปลดคลายชุดกระชับ 30-60 นาที
  2. ทำแผลอย่างสม่ำเสมอ แนะนำให้ทำแผลด้วยยาฆ่าเชื้อ โดยทำความสะอาดและปิดผ้ากอซทุก 1-2 วันจนกว่าจะตัดไหม 
  3. ควรเคลื่อนไหวร่างกายช้า ๆ ทุก 1-2 ชม
  4. รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง 
  5. ควรรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ 
  6. ดื่มน้ำไม่เกิน 1-1.5 ลิตรต่อวัน 
  7. งดยาและอาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด 
  8. เสริม Vitamin C, B Complex ให้กับร่างกาย
  9. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย 1 เดือน 
  10. หากมีไข้สูง แผลบวมแดง คลื่นไส้จนทานอาหารไม่ได้ มีแผลจากการใส่ชุดกระชับ แนะนำให้รีบมาพบแพทย์

ดูดไขมันที่ไหนดี? คลินิกที่ดีต้องมีอะไรบ้าง


       เลือกดูดไขมันที่ไหนดี จะเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกดี? หมอไอซ์ขอแนะนำให้เลือกจากมาตรฐานการให้บริการเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหรือคลินิกก็ควรมี 7 สิ่งนี้ 

  1. มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูงในด้านการดูดไขมัน 
  2. มีห้องผ่าตัดระบบ Positive Pressure ที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข 
  3. มีเครื่องดูดไขมันและเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ครบครัน และได้มาตรฐานสากล 
  4. มีวิสัญญีแพทย์ดูแลในเรื่องของยาชาและยาสลบ 
  5. มี After Care ดูแลหลังการดูดไขมัน 
  6. มีรีวิวให้ดูทุกมุม ทุกเพศ ทุกช่วงวัย  
  7. มีใบรับรองการให้บริการของคลินิกที่ถูกต้อง 

ทำไมต้องดูดไขมันที่ AMARA Liposuction Center


        ศูนย์ดูดไขมัน AMARA Liposuction Center อันดับ 1 ด้านการปรับรูปร่างของไทยและเอเชีย การันตีด้วยรางวัลมากมายจากองค์กรชั้นนำระดับโลก ที่นี่เราเน้นการสร้างรูปร่างด้วยการดูดไขมันเทคนิค Advanced LipoSculpt 4D ที่ผสานหลัก Sci+Art เข้ามาในการออกแบบรูปร่าง

ดูดไขมัน = หมอไอซ์ AMARA
ผลลัพธ์สวยไม่เหมือนใคร ดูแลครบครันทุกขั้นตอน
โดยแพทย์ผู้สอนดูดไขมัน ที่มีเคสเยอะที่สุด NO.1

ดูดไขมัน = หมอไอซ์

  • เป็นศูนย์ดูดไขมัน-เติมไขมัน เฉพาะทาง
  • แพทย์เชี่ยวชาญระดับ KOL Trainer การันตีด้วยรางวัลระดับโลก
  • ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อขนาดใหญ่ มีใบรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข 
  • 1 เดียวในประเทศที่มีเครื่องดูดไขมันครบทุกพลังงาน
  • ดูแลอาการหลังทำด้วย After Care คุณภาพมากกว่า 30 รายการ
  • วางยาสลบ/ยาชาโดยวิสัญญีแพทย์แบบ 1:1 ทุกเคส
  • รีวิวจริงจากคนไข้ มากกว่าหมื่นเคส
  • มีทีมดูแลหลังการขายที่เชี่ยวชาญ 
  • การันตีผลงานหลังทำนาน 6 เดือน
  • ดูดไขมันราคาไม่เอาเปรียบ ตรงไปตรงมา ไม่เล่นเกมเรื่องราคา

การันตีมาตรฐานและ “การผู้นำด้านการดูดไขมัน” ด้วยรางวัลมากมาย

  • นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์) KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet 
  • พญ.กรพร สถิตวิทยานันท์ (หมอมะปราง) KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet 
  • ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Body-jet Trainging Center หรือ ศูนย์การสอนดูดไขมันและเติมไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ ประจำประเทศไทย
  • รางวัล The Most Body-jet Users (6 ปีซ้อน) เคสดูดไขมันพลังงานน้ำเยอะที่สุดในไทย
  • No. 1 in Asia of Procedures Done in 2020-2021 เคสเจพลาสมาเยอะที่สุดในไทยและเอเชีย (2 ปีซ้อน)
  • รางวัล 2022 Global No.1 Renuvion J Plasma User เคสกระชับผิวเจพลาสมาเยอะที่สุดในโลก
  • รางวัล The Thailand Platinum Award 2023 สาขา TOP cases perform จาก Renuvion
  • BEST OF BODY CONTOURING 2022 จากนิตรสารสุดสัปดาห์
  • HELLO! Beauty Awards 2023 สถานพยาบาลที่ได้รับความนิยมที่สุดในหมวด Body Contouring
  • Morpheus8 Top User Award 2022 (รางวัลเคส Morpheus8 มากที่สุดในไทย)
  • คลินิกผ่านการรับรองมาตรฐาน AACI หรือ American Accreditation Commission International

เทคนิค Advanced LipoSculpt 4D ปั้นหุ่นสวย (เลียน)แบบธรรมชาติ

       การดูดไขมันแบบ Advanced LipoSculpt 4D อีกก้าวสำคัญของการปรับสัดส่วนให้ดีขึ้น และสร้างผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติกว่าเดิม ที่ AMARA Liposuction Center (เอมาร่า) หมอจึงมีการนำเทคนิค Advanced LipoSculpt 4D เข้ามาใช้ในทุกเคสที่มาทำหัตถการนี้ที่เอมาร่า เทคนิค Advanced LipoSculpt 4D คือ “การปั้นสัดส่วนให้สวยงาม” ด้วยเครื่องมือมาตรฐานสากล ครบครันที่สุดในไทย จะมีปัญหารูปร่างแบบไหนก็แก้ได้ที่ “เอมาร่า” ซึ่งการใช้เทคนิคนี้จะแตกต่างจากการดูดเซลล์ไขมันแบบเดิม ๆ เพราะจะมีการเน้นเหลาสัดส่วนรูปร่างเพื่อสร้างมิติให้กับสัดส่วนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เทรนด์การดูดไขมันแบบใหม่ 2024 Advanced LipoSculpt 4D

  • การสร้างร่องหน้าท้อง ร่อง 11 
  • การทำซิกแพคในเคสคุณผู้ชาย
  • การเหลาเอวเอส 
  • การสร้างสะโพกที่ดูผายยิ่งขึ้นด้วยการเติมไขมัน
  • การเหลาเรียวแขนและต้นขาให้สวยแบบ 360 องศา 
  • การดูดไขมันเหนียง สร้างกรอบหน้า 

ดูดไขมันไม่แข็งทื่อด้วยเทคนิคที่ผสาน Art+Sci

ดูดไขมันแบบใหม่ 2024-Advanced LipoSculpt 4D         นอกจากนี้ยังมีการนำศาสตร์ความงามตามหลักกายวิภาค (Art of Anatomy) เข้ามาใช้ในการออกแบบรูปร่าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามดูเป็นธรรมชาติ และมีความสมส่วนกับรูปร่าง (Body Types) ของแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะทำการประเมินสัดส่วนแบบ 1:1 ในทุกเคส รวมทั้งนำเทคโนโลยี Styku เข้ามาช่วยในการประเมินรูปร่าง ก่อนกำหนดจุดที่ต้องทำต่อไป  

        จากรูปปั้นตัวอย่างด้านล่างทั้ง Venus de Milo (รูปปั้นเทพอะโฟร์ไดต์) และ David (รูปปั้นเดวิด) ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ถือเป็นตัวอย่างรูปร่างของทั้งชายและหญิงที่มีความงามในทุกท่วงท่า ซึ่งการดูดไขมันแบบใหม่ Advanced LipoSculpt 4D ได้รับแรงบันดาลใจจากการปั้นหุ่นของยุค Renaissance มาใช้ในการปั้นหุ่นดูดไขมันให้มีความสวยงามตามธรรมชาติ สมส่วนกับรูปร่างของแต่ละบุคคล และเล่นแสงเงาในทุกมิติ

รวมรีวิวก่อนและหลังทำจากเคสจริง!

รีวิว ก่อน-หลังจากห้อง OR

รีวิว ก่อน-หลัง ภาพทางการแพทย์

รีวิวหลังดูดไขมัน Real Story จากเคสจริง

ดูดไขมันราคาเท่าไหร่

        โดยทั่วไป ราคาในการดูดไขมันจะเริ่มต้นที่ 25,000 บาทขึ้นไปครับ ซึ่งจะมีราคาแตกต่างกันไป แล้วแต่อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ ตำแหน่ง การเลือกบริการเสริมอื่น ๆ ที่คลินิกมีให้ หรือแม้แต่ราคาของการดูดทิ้ง-ดูดเติมก็แตกต่างกันครับ เพราะแต่ละแบบจะมีอุปกรณ์ที่ใช้ไม่เหมือนกัน

FAQs ตอบทุกข้อสงสัยกับหมอไอซ์ AMARA

ดูดไขมัน อันตรายไหม?

      จัดว่าเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยง แต่ไม่อันตรายร้ายแรงหากอยู่ในการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลตลอดการผ่าตัด รวมทั้งการผ่าตัดภายในห้องคลีนรูมยังช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของแผลติดเชื้อได้อีกด้วย

      ไม่ช่วยครับ เพราะเดิมมันก็ไม่ใช่การลดน้ำหนักอยู่แล้ว มวลไขมันและมวลกล้ามเนื้อนั้นไม่เท่ากัน แม้จะมีขนาดใหญ่เท่ากัน กล้ามเนื้อจะหนักมาก ส่วนไขมันจะมีน้ำหนักเบา หลังดูดเอาไขมันออกไปแล้วก็ไม่ได้ส่งผลต่อน้ำหนักครับ แต่ในบางเคส เช่น เคสที่ดูดทั้งตัว หรือเคสที่ดูดหลายตำแหน่ง และมีปริมาณไขมันมาก ก็อาจทำให้น้ำหนักลดลงได้เล็กน้อยครับ

      ใช้เวลาประมาณ 1-5 ชม. แต่ละเคสเวลาในการทำจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนตำแหน่งที่เลือก ปริมาณไขมันสะสม และเครื่องมือที่เลือกใช้

    หลัง 1 เดือนขึ้นไปเป็นช่วงที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด แม้ว่าตามหลักแล้วจะช่วยลดสัดส่วนให้เล็กลงได้ทันทีหลังทำเสร็จ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าจะยังคงมีความบวมช้ำหลงเหลือในช่วง 1-14 วันหลังทำ

      นับเป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินอย่างถาวร สามารถคงผลลัพธ์ที่ดีไว้ในได้นานหลายปี หากเลือกเข้ารับบริการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีการดูแลหลังผ่าตัดที่ดี ตลอดจนการมีพฤติกรรมการกินที่ดีหลังรับบริการไปแล้ว

    เคสของคุณแม่สามารถทำได้หลังร่างกายพักฟื้นดีแล้ว โดยช่วงเวลาที่แนะนำคือ 6 เดือน – 1 ปีหลังคลอดไปแล้ว แต่ทั้งนี้จะต้องตรวจร่างกายเพิ่มเติม เพื่อเตรียมร่างกายของคุณแม่ให้พร้อมที่สุด

    ปกติแล้วจะเน้นการกำจัดไขมันและปรับรูปร่างเป็นหลัก แต่คนไข้ส่วนใหญ่ของเอมาร่า มักจะมีเซลลูไลท์ลดลงเนื่องจากการนวดกระชับ RF ด้วยเครื่อง Venus Legarcy

      หลังทำควรนอนในลักษณะท่าหงาย ประมาณ 7 วัน เพื่อลดโอกาสเกิดการกระทบต่อแผลที่ยังต้องระวังเป็นพิเศษในช่วงนี้ โดยเฉพาะในเคสที่เลือกตำแหน่งหน้าท้อง ทำร่อง 11 หรือ ทำ Six pack ควรนอนในท่าตรงอย่างเคร่ดครัด

      ระยะเวลาในการพักฟื้นอยู่ที่ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งแต่ละเคสอาจใช้เวลาในการพักฟื้นแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับ อายุ การดูแลหลังทำ ตำแหน่งที่เลือก ปริมาณไขมันที่ดูด และเครื่องมือที่ใช้ ตลอดจนความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ให้บริการ

      ในแง่ของการสลายไขมันและลดสัดส่วน บริการนี้จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่าการฉีดสลายไขมัน และยังสามารถช่วยสร้างร่อง 11 สร้างมัดกล้ามเนื้อที่เลียนแบบตามธรรมชาติ การดูดจึงเป็นวิธีลดไขมันเร่งด่วนที่ดีที่สุดในขณะนี้

      ระยะเวลาในการใส่ชุดกระชับอยู่ที่ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ใช้ ตำแหน่งที่เลือก และระดับความย้วยของผิวในแต่ละคน เคสที่เลือกเครื่องพลังงานน้ำ Body-jet จะใช้เวลาน้อยกว่าเครื่องพลังงานความร้อน

    สามารถทำร่วมกับศัลยกรรมอื่นได้ เช่น ทำร่วมกับการตัดหนังหน้าท้อง, ตัดหน้าอก, เสริมหน้าอก และ ดูด-ฉีดไขมัน

    ในระหว่างกระบวนการทำจะไม่รู้สึกเจ็บ เนื่องจากการใช้ยาชา/ยาสลบ แต่หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้น จะมีอาการปวด ตึง และชาในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ซึ่งสามารถบรรเทาอาการเหล่านี้ได้โดยการทานยาลดปวดที่หมอให้ไป

      ปัจจุบันหมอไทยเราไม่แพ้เกาหลีเลยนะครับ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องไปใช้บริการที่เกาหลีเลย (เสียเงินหลายต่อ ทั้งค่าเครื่อง ทั้งค่าเอเจนซี่) เพราะหมอไทยเราได้มีการใช้เทคนิคจากเกาหลี ใช้เครื่องมือ และเทคโนโลยีที่เหมือนเกาหลีด้วยเช่นกัน ซึ่งที่ AMARA Liposuction Center ใช้เทคนิคเกาหลี แพทย์จบหลักสูตรทั้งการดูดและเติมไขมันระดับสูงจากประเทศเกาหลีโดยตรง

      การศัลยกรรมชนิดนี้ไม่ได้กำหนดในช่วงอายุที่ชัดเจนไว้ แต่แนะนำให้ทำได้ในช่วงอายุ 18 ปีขึ้นไป หากต่ำกว่านี้ควรมีผู้ปกครองให้การยินยอม หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับอายุที่เหมาะสม สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมได้ที่ช่องทางด้านล่าง

สรุป

       การดูดไขมันถือเป็นหัตถการที่ช่วยสลายไขมัน ลดสัดส่วนเร่งด่วน ได้ทั่วทั้งร่างกายภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ แม้ในอดีตการดูดไขมันจะไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก แต่นับตั้งแต่ปี 2021 จนถึงปัจจุบันปฎิเสธไม่ได้ว่าการดูดไขมัน คือศัลยกรรมรูปแบบหนึ่งที่อยู่ในกระแสความนิยมของคนทั่วโลก 

       เนื่องจากมีการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยและปลอดภัยขึ้น รวมทั้งความเชี่ยวชาญของแพทย์ก็มีการพัฒนามากกว่าเมื่อก่อน จึงทำให้อาการข้างเคียงหลังทำน้อยลงตามไปด้วย พร้อมสร้างผลลัพธ์ที่เห็นเร็วทันใจ แต่ทั้งนี้การที่คุณจะได้ผลลัพธ์แบบที่ตั้งใจไว้ การเลือกคลินิกก็สำหรับมาก ๆ ซึ่งที่ AMARA Liposuction Center เป็นศูนย์ดูดไขมันเฉพาะทางที่เหมาะกับทุกคนอย่างแน่นอนครับ

มีปัญหาเรื่องรูปร่าง ไม่มั่นใจ อยากเป็นคนใหม่
ปรึกษาแพทย์ฟรีได้ที่ช่องทางด้านล่างเลยครับ

ปรึกษาแพทย์ ฟรี!

ลงทะเบียน คลิกที่นี่

สอบถามโปรโมชั่น LINE: @amaraclinic
หรือคลิกลิงค์นี้ได้เลย : https://lin.ee/801MUsB

ติดต่อเบอร์โทร : 

062-789-1999

⇒ สาขา รัชโยธิน กด 1
⇒ สาขา ราชพฤกษ์ กด 2

นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ (หมอไอซ์)

KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน Water-jet

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย

    ดูดไขมันที่ไหนดี? AMARA พร้อมให้บริการ 2 สาขา

    AMARA สาขา รัชโยธิน


    AMARA สาขา ราชพฤกษ์